กสิกรฯ เดินหน้ารุกตลาดบัตรเดบิต ตั้งเป้าเพิ่มอีก 5 ล้านใบ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 70% ประเดิมออกบัตรคาแร็กเตอร์เฮลโล คิตตี้ เอาใจสาวกคิตตี้ หวังได้ยอดบัตร 5 แสนใบ ขณะที่หนี้ NPL ยังนิ่ง ยันปริมาณฝาก-ถอนยังปกติ ห่วงลามจะกระเทือนทั้งระบบ
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจด้านบัตรเดบิตของธนาคารในปีนี้ ได้ตั้งเป้าหมายออกบัตรเดบิตเพิ่มอีก 5 ล้านใบ หรือมียอดบัตรรวม 11 ล้านใบ ด้วย 3 กลยุทธ์หลักๆ ได้แก่ การเพิ่มจำนวนบัตร การเพิ่มช่องทางการใช้บัตร ทั้งเครื่องรับบัตร (EDC) และ K POWER PAY ที่สามารถใช้กับสมาร์ทโฟนได้ ซึ่งในจุดนี้จะเน้นที่กลุ่มเอสเอ็มอี และกลุ่มไดเรกต์เซลส์ และเพิ่มแคมเปญที่ตรงใจผู้ใช้
ด้านการใช้จ่ายผ่านบัตรในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 70% หรือมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตเป็น 50,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 33,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34% ของตลาดรวม ซึ่งถือเป็นอันดับ 1 ของระบบ ทั้งยอดใช้จ่าย และจำนวนบัตร ทั้งนี้ หากสามารถขยายตัวได้ก็จะทำให้ธนาคารมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในจำนวนดังกล่าวเป็นการใช้จ่ายทางออนไลน์ 3,600 ล้านบาท
“อัตราการเติบโตที่ตั้งไว้ในปีนี้ค่อนข้างสูงพอสมควร ทั้งด้านยอดบัตรใหม่ และยอดใช้จ่าย เนื่องจากยังเห็นช่องทางที่จะขยายได้อีกมาก โดยปัจจุบันธุรกรรมการเงินของบัตรเดบิต 70% เป็นการเบิกถอนเงินจาก ATM อีก 30% ดังนั้น ยังมีโอกาสที่ผู้ถือบัตรจะนำมาใช้จ่ายอีกมาก ขึ้นอยู่กับว่าจะมีแรงจูงใจให้เริ่มใช้อย่างไร ซึ่งก็คือแคมเปญต่างๆ ที่ธนาคารจะทยอยออกมา โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้จ่ายผ่านบัตรจะเพิ่มขึ้นจาก 14% เป็น 20-30%”
สำหรับยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อรายย่อยนั้น อยู่ในระดับไม่ถึง 2% ต่ำกว่าระบบที่ 2% และยังไม่มีสัญญาณการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากฐานลูกค้าโดยเฉพาะสินเชื่อบุคคลจะเน้นในกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่า 15,000 บาทต่อเดือน และบัตรเครดิตในกลุ่มลูกค้าระดับบนซึ่งไม่ค่อยอ่อนไหวตามภาวะเศรษฐกิจมากนัก ประกอบกับธนาคารมีความเข้มงวดทั้งในด้านการอนุมัติ และการติดตามมาตั้งแต่ปีก่อน จึงยังไม่มีสัญญาณการเพิ่มขึ้นของหนี้ NPL แต่อย่างใด
เร่งขยายฐานบัตรคาแร็กเตอร์
ล่าสุด ในไตรมาสแรกปี 2557 ธนาคารได้เปิดตัวบัตรเดบิตเฮลโล คิตตี้ (Hello Kitty) ซึ่งเป็นบัตรเดบิตลายคาแร็กเตอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อน และถือโอกาสที่เฮลโล คิตตี้ ฉลองครบรอบ 40 ปี ออกบัตรเดบิตเฮลโล คิตตี้ 3 ลาย คือ ลาย “เฮลโล คิตตี้ ลิมิเต็ด เอดิชัน” ที่ทางบริษัท ซานริโอ (Sanrio) ออกแบบลายขึ้นมาใหม่เป็นลายที่ใช้สำหรับธนาคารกสิกรไทยแห่งเดียวเท่านั้น กับลายบัตรสีชมพูหวาน โดดเด่นด้วยเฮลโล คิตตี้ สีดำสวยหรูด้วยความแวววาวของลายคริสตัล พร้อมรับเซตกระเป๋าเดินทางเฮลโล คิตตี้ สมุดบัญชี และซองพลาสติกอเนกประสงค์ลายเดียวกัน จำหน่ายในราคาชุดละ 2,000 บาท
ส่วนอีก 2 ลาย เป็นบัตร K-My Debit ลายเฮลโล คิตตี้ ควงคู่มากับดาเนียล และ K-Max Debit Card พ่วงประกันที่สวยโดดเด่นด้วยเฮลโล คิตตี้ กับผลเชอรี่แดง พิเศษกับทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต “เฮลโล คิตตี้” รับกระเป๋าเฮลโล คิตตี้รูปแบบต่าง ๆ ตามมูลค่าการใช้จ่าย ตั้งแต่ 1 มี.ค.57-30 มิ.ย.57 โดยธนาคารตั้งเป้าการออกบัตร Hello Kitty ในปีนี้ที่ 500,000 ใบ
ยันสถานการณ์เงินฝากปกติ
สำหรับสถานการณ์การถอนเงินฝากจากธนาคารบางแห่งนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ธนาคารติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากเกิดเหตุบานปลาย หรือลุกลามก็ทำให้กระทบต่อสถาบันการเงินทั้งระบบได้ และจนถึงปัจจุบัน การฝาก-ถอนเงินของธนาคารอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีจำนวนเงินฝากเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เงินฝากที่เข้ามาส่วนใหญ่มาจากแคมเปญของธนาคารที่ตรงใจลูกค้า
ด้านการแข่งขันระดมเงินฝากในปีนี้คงจะไม่รุนแรงเท่าในปีก่อนๆ ซึ่งเป็นไปตามการขยายตัวของสินเชื่อที่ส่วนใหญ่ตั้งเป้าเติบโตในอัตราที่ลดลง โดยในส่วนของธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตประมาณ 9% และสินเชื่อรายย่อยก็คงจะเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวเช่นกัน
