หุ้นปิดลบ 2 จุด เผยตลาดฯ ไร้ปัจจัยใหม่หนุน เจอแรงขายหนักช่วงเข้าใกล้ 1,320 จุด ขณะที่นักลงบางส่วนยังกังวลการเมือง และลดความเสี่ยงช่วงวันหยุด และยังมีปัจจัยเม็ดเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่กดดันตลาดฯ
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 ก.พ.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,311.87 จุด ลดลง 2.19 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.17% มูลค่าการซื้อขาย 23,630.16 ล้านบาท ทิศทางเดียวกับต่างประเทศที่ปรับฐาน โดยภาพรวมวันนี้ดัชนีแกว่งผันผวน โดยมีแรงขายทำกำไร และการลดความเสี่ยงช่วงวันหยุด
ทั้งนี้ แม้ว่าช่วงบ่ายจะมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มสื่อสาร และหุ้นบลูชิพบางตัว แต่ก็ถูกเทขายหนักช่วงที่ดัชนีเข้าใกล้ 1,320 จุด เนื่อจากตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่หนุน และมีปัจจัยหลักที่กดดัน ทั้งจากการเมืองช่วงวันหยุด และกรณีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่
ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนแยกตามประเภทมีดังนี้ นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 169 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 461 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 755 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 463 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวคล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ คาดว่าเป็นแรงเก็งกำไรที่เข้ามาหลังจากที่ดัชนีฯ สามารถยืนได้เหนือระดับ 1,300 จุดได้ อย่างไรก็ดี ตลาดฯ ยังรอปัจจัยใหม่อยู่ ส่วนการเมืองในประเทศก็ยังคงกดดันอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยจากต่างประเทศเวลานี้ไม่มีประเด็นสำคัญ เพียงรอตัวเลข GDP ของยุโรปที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะออกมาดีขึ้น แต่ตลาดบ้านเราปิดทำการในวันพรุ่งนี้
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดคงเป็นลักษณะของการเทรดดิ้งในกรอบ 1,300-1,330 จุด ซึ่งตลาดฯ ยังมีลุ้นตัวเลข GDP ของไทย และญี่ปุ่นที่จะประกาศในวันจันทร์หน้า โดยตลาดได้คาดการณ์ GDP ของไทยงวดไตรมาส 4/56 จะเติบโต 2.8% yoy หากออกมาแย่กว่าคาดการณ์ก็อาจจะทำให้หุ้นปรับตัวลงได้
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี ยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ช่วงพักฐานหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปแรงเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ และวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันหยุดทำการ และต่อเนื่องกับเสาร์-อาทิตย์ ทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ เนื่องจากปัจจัยการเมืองยังคงกดดันตลาดหุ้นอยู่
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,344.72 ล้านบาท ปิดที่ 7.70 บาท ลดลง 0.05 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,157.12 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท ลดลง 1.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,004.01 ล้านบาท ปิดที่ 215.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 890.23 ล้านบาท ปิดที่ 176.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 831.19 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
