หุ้นปิดครึ่งวันเช้าลบ 3 จุด ทิศทางเดียวกับตลาดในต่างประเทศ ชี้ตลาดปรับฐานหลังขึ้นต่อเนื่องหลายวัน นักลงทุนขายทำกำไร พร้อมลดความเสี่ยงถือหุ้นช่วงหยุดทำการ 3 วัน
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 ก.พ.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,310.75 จุด ลดลง 3.31 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.25% มูลค่าการซื้อขาย 10,865.50 ล้านบาท ทิศทางเดียวกับตลาดในต่างประเทศที่มีการปรับฐาน และมีการขายทำกำไร พร้อมลดความเสี่ยงก่อนหยุดทำการ 3 วัน
นอกจากนี้ การไหลของเงินทุนต่างชาติในตลาดเกิดใหม่ และยังมีการขายต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีน้ำหนักสูงกว่าการเมืองที่ไม่มีทางออกแต่สถานการณืยังนิ่งไม่มีความรุนแรง ขณะเดียวกัน ตลาดก็อยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงาน ทำให้มีแรงเก็งกำไรผลประกอบการ และเงินปันผลเข้ามาพยุงตลาดฯ
ทั้งนี้ คงต้องติดตามประเด็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากความยืดเยื้อทางการเมือง โดยเฉพาะหลายหน่วยงานเตรียมพิจารณาปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ๋มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ในปี 2557 ลงสู่ระดับต่ำกว่า 3.0% จากก่อนหน้าที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 4.0-5.0% และอาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ขณะที่สภาพัฒน์จะมีการประกาศตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 4/2556 ในวันที่ 17 ก.พ.57
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้เข้าสู่ช่วงพักฐาน หลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปแรงเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ และวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันหยุดทำการที่ต่อเนื่องกับเสาร์-อาทิตย์ ทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ เนื่องจากปัจจัยการเมืองยังคงกดดันตลาดฯอยู่
แต่การที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องขอให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ทำให้ความกังวลปัญหาการเมืองผ่อนคลายลงบ้าง แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯ คงจะแกว่งตัวขึ้น/ลง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,308-1,318 จุด ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ไม่ได้มีนัยมากนัก ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเช่นกัน
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส ยอมรับว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ผันผวนเนื่องจากเมื่อวานนี้ตลาดดีดบวกขึ้นได้ต่อเนื่องตามภาวะตลาดหุ้นภูมิภาค ที่ได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม ประเด็นทางการเมืองที่ยังไม่มีความแน่นอนจะยังกดดันตลาดหุ้นไทยต่อไป ทำให้กรอบการบวกขึ้นของตลาดอาจจะยังจำกัด และยังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวน หรือปรับย้อนลงให้เห็นอยู่