xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรีฯ ตั้งเป้าสินเชื่อโต 9% ควง BTMU รุกธุรกิจเต็มสูบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรุงศรีฯ พร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจ ตั้งเป้าสินเชื่อโต 9% ขยายธุรกิจขนาดใหญ่-เอสเอ็มอี รวมถึงกลุ่มประเทศ CLM จากการสนับสนุนเชิงกลยุทธ์ของผู้ถือหุ้นใหญ่

นายโนริอากิ (โนริ) โกโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ในปี 2557 นี้ กรุงศรี ได้ตั้งเป้าเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 9% ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ซึ่งประกอบด้วย การขยายฐานธุรกิจลูกค้าขนาดใหญ่ และกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี การคงความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อรายย่อย การสร้างฐานเงินฝากให้แข็งแกร่งด้วยต้นทุนที่ต่ำลง การสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน และขยายโอกาสในการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLM ซึ่งประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา ลาว และพม่า ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

พร้อมกันนี้ กรุงศรี มีแผนที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งของไทย ญี่ปุ่น และบริษัทข้ามชาติอื่นๆ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกของ MUFG และความเชี่ยวชาญระดับสากลในการทำธุรกิจธนาคาร โดยกรุงศรี จะมุ่งให้การสนับสนุนลูกค้าขนาดใหญ่ในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศโดยเฉพาะในเขตลุ่มแม่น้ำโขง การขยายผลิตภัณฑ์และบริการไปสู่กลุ่มธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันเป็นห่วงโซ่ หรือ supply chain รวมถึง cross sell บริการทางการเงินที่หลากหลายแก่พนักงานของบริษัทลูกค้าขนาดใหญ่เหล่านี้

สำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี กรุงศรี มุ่งสร้างความแข็งแกร่ง และการรับรู้แก่แบรนด์กรุงศรี SME กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ขณะเดียวกัน เราก็จะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของธุรกิจในเครือด้านสินเชื่อรายย่อย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในวงกว้าง เพื่อเป็นทางเลือกทางการเงินให้แก่ลูกค้า เช่นเดียวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้สะดวกรวดเร็วขึ้น

“ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายในปีนี้ กลยุทธ์ต่างๆ ที่เรากำลังดำเนินอยู่จะอยู่บนพื้นฐานของการพิจารณาให้สินเชื่ออย่างระมัดระวัง และการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะเติบโตอย่างมีคุณภาพ”

อนึ่ง ปัจจุบัน คือธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารมีสาขาอยู่ใน 13 ประเทศหลักของภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนีย รวมถึงประเทศกัมพูชา พม่า เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
กำลังโหลดความคิดเห็น