บล. คันทรี่ กรุ๊ป ระบุการปรับโครงสร้างกิจการเป็น Holding Company ส่งผลดีต่อตัวบริษัท และผู้ถือหุ้น เหตุสามารถขยายฐานการเติบโตทางธุรกิจมากขึ้น เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน กระจายความเสี่ยงของการดำเนินธุรกิจแต่ละด้าน และที่สำคัญเพิ่มช่องทางโอกาสในการหาพันธมิตร หรือผู้ร่วมทุนใหม่ๆ ที่มีความรู้ความชำนาญในธุรกิจเฉพาะนั้นๆ หากต้องการ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 2558 คาดการโอนธุรกิจจะเกิดขึ้นประมาณเดือนมิถุนายน 2557 ยันจะพิจารณาถึงความเหมาะสมในการโอนธุรกิจแต่ละส่วนออกไป กำหนดชี้แจง และประชุมผู้ถือหุ้น 7 ก.พ.นี้
น.ส.สุดธิดา จิระพัฒน์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 บริษัทกำหนดให้มีการจัดประชุมชี้แจง (Presentation) และประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2557 โดยมีวาระที่สำคัญคือ การพิจารณาอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างกิจการของบริษัท ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และเพื่อป้องกัน และจำกัดขอบเขตความเสี่ยงที่แตกต่างกันระหว่างธุรกิจการเป็นตัวแทน และธุรกิจลงทุนด้วยเงินทุนของบริษัท
หากพิจารณาโดยภาพรวมทั้งกลุ่มบริษัทแล้ว การปรับโครงสร้างกิจการจะทำให้สามารถขยายฐานการเติบโตทางธุรกิจมากขึ้น เพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ และสร้างความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจอื่นๆ ที่มิใช่ธุรกิจหลักทรัพย์ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแล และสามารถกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจแต่ละด้าน ไม่ให้กระจุกตัวอยู่กับบริษัทแม่เพียงบริษัทเดียว พร้อมทั้งสามารถเปิดโอกาสในการหาพันธมิตร หรือผู้ร่วมทุนใหม่ๆ ที่มีความชำนาญในเฉพาะธุรกิจที่ต้องการเข้ามาร่วมมือ และร่วมทุนเป็นรายธุรกิจก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และเพื่อป้องกัน และจำกัดขอบเขตความเสี่ยงที่แตกต่างกันระหว่างธุรกิจการเป็นตัวแทน และธุรกิจลงทุนด้วยเงินทุนของบริษัท ซึ่งการแยกธุรกิจแต่ละส่วนออกจากกันอย่างมีความชัดเจน เป็นการแบ่งแยกความเสี่ยงทางการการเงินของแต่ละธุรกิจออกจากกัน พร้อมทั้งแบ่งแยกการรายงานฐานะการเงินที่แยกกันโดยชัดเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน จะส่งผลให้ผู้ถือหุ้น และบุคคลภายนอกสามารถวิเคราะห์ ติดตามวัดผลฐานะทางการเงินของกิจการได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
“ภายหลังการปรับโครงสร้างกิจการ บริษัทจะยังคงมีโครงสร้างรายได้ใกล้เคียงเดิม และการบริหารงานก็ยังคงมีลักษณะคล้ายกับการบริหารงานเดิมของบริษัท โดยเปลี่ยนแปลงแต่เพียงให้คณะกรรมการหลักในการกำกับดูแลกิจการ อันได้แก่ คณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการชุดย่อย มาบริหารงานอยู่ที่บริษัทโฮลดิ้ง ในการกำกับดูแลกิจการ และการบริหารงาน” น..ส.สุดธิดากล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดการประชุมผู้ถือหุ้น ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 ฉะนั้นผู้ถือหุ้นของ CGS ควรเข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาผลดีของการปรับโครงสร้างกิจการบริษัท และแผนงานในอนาคต และโหวตเพื่อปรับโครงสร้างของบริษัทให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มการเงินทิสโก้ และกลุ่มการเงินเกียรตินาคิน ภัทร ก็ได้ดำเนินการไปแล้ว และประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง
ด้านแหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์กล่าวว่า การประชุมปรับโครงสร้างกิจการ โดยจัดตั้งบริษัท Holding Company ครั้งนี้ จะต้องมีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุม และลงคะแนนเสียงอนุมัติไม่น้อยกว่า 75% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ถือหุ้นจะต้องเข้าร่วมประชุมฯ โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อให้การลงคะแนนเสียงประสบความสำเร็จได้ด้วยดี