xs
xsm
sm
md
lg

สภาธุรกิจจี้รัฐรีบเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน ตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สภาธุรกิจตลาดทุน หวังรัฐบาลเร่งยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อนกำหนด 60 วัน หวั่นฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนจนย้ายหนีไปลงทุนต่างแดน หลังกองทุน และกลุ่มธุรกิจต่างประเทศเลื่อนแผนธุรกิจในไทยหมด ชี้สถานการณ์การเมืองเริ่มกระทบภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยว แต่พบวิวัฒนาการภาคประชาชนใส่ใจต่อการต่อต้านคอร์รัปชันเพิ่ม เชื่อทุกอย่างยุติโดยสันติ ส่วนเหตุหุ้นไทยไม่ร่วงตาม พ.ร.ก. พบ บลจ.แห่ออกทริกเกอร์ฟันด์ จับวิกฤตเป็นโอกาสช้อนหุ้นถูก ช่วยพยุงดัชนี

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ในฐานะประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยหลังรัฐบาลมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า หากสถานการณ์ทางการเมืองไม่มีความรุนแรง แล้วรัฐบาลมีการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ดังกล่าวก่อนครบกำหนด 60 วันได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี และยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะจากที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่งผลทำให้นักลงทุนต่างประเทศที่เดิมมีแผนจะเข้ามาเยี่ยมชมกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (Company Visit) ได้มีการยกเลิกออกไป เพราะความไม่มั่นใจจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“ตอนนี้กองทุนต่างประเทศบางแห่งที่มีเกณฑ์ไม่ให้พนักงานเดินทางมายังประเทศที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็หยุดการเดินทางมาไทย เช่นเดียวกับนักธุรกิจต่างประเทศที่จะเข้ามาเจรจาการลงทุนในไทย ต้องมีการเลื่อนออกไปเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อนเช่นกัน”

นายไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น พบว่ามีวิวัฒนาการของระบบการปกครองที่เคยเกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ นั่นคือ แม้จะก่อให้เกิดความตึงเครียดในสังคมไทย แต่ส่วนดีที่สุดคือ เริ่มมองเห็นความตื่นตัวยอยากมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ในความเห็นพ้องของทุกภาคส่วนที่ต้องการป้องกัน ต่อต้าน และเอาผิดเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เห็นว่าจะซ้ำเติมความไม่มั่นใจของนักลงทุน และการทำมาค้าขาย การใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน จึงขอให้พิจารณาใช้ด้วยความระมัดระวัง ส่วนมุมมองต่อเศรษฐกิจ และการลงทุนในระยะสั้น เห็นว่าจะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจจริง เช่น การท่องเที่ยวซึ่งมีธุรกิจบริการ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกหลายกลุ่ม รวมถึงภาคการเงิน และการลงทุนในระยะสั้น ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะพบว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีความเปราะบางมากกว่าวิกฤตในครั้งก่อนๆ

“นักลงทุนที่มีความเข้าใจเรื่องการลงทุนอย่างแท้จริงจะสามารถมองเห็นโอกาสในวิกฤต จึงเชื่อว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่นักลงทุนระยะยาวสามารถสรรหากิจการที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีโอกาสในการเติบโต และเข้าลงทุนได้ในราคาที่เหมาะสม โดยรวมเราอยากเห็นสถานการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมืองยุติลงโดยเร็วด้วยความสันติ แต่จะด้วยวิธีการใดนั้นทุกฝ่ายควรจะเข้าใจว่าไม่มีใครได้ทั้งหมด และไม่มีใครทนเสียอะไรได้ทุกอย่าง ดังนั้น การทำความเข้าใจในความคิด ความรู้สึกของประชาชนที่คิดต่างกันจึงเป็นสิ่งดีที่สุดที่จะทำให้สันติเกิดขึ้น”

ส่วนกรณีที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่ปรับตัวลดลงแรงแม้รัฐบาลมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น มองว่าเกิดจากตลาดหุ้นได้ตอบรับกับสถานการณ์ทางการเมืองไปพอสมควรแล้ว จากการชุมนุมที่ยืดเยื้อมาหลายเดือนแต่ไม่ได้มีความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างที่ตลาดกังวล ดังนั้น นักลงทุนบางกลุ่มที่เห็นโอกาสในช่วงวิกฤตนี้เข้ามาลงทุน

ด้าน นางวรวรรณ ธาราภูมิ ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า การที่ตลาดหุ้นไทยไม่ปรับตัวลงแรงน่าจะมาจากการเข้ามาหุ้นของนักลงทุนสถาบันในประเทศ เพราะพบว่ามใบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม 2-3แห่ง ตั้งกองทุนทริกเกอร์ฟันด์เข้ามาลงทุนในหุ้น รวมทั้งมีนักลงทุนสถาบันในประเทศเข้ามาลงทุนในหุ้นที่สนใจเพราะมีราคาที่ถูกลง จึงเกิดแรงซื้อเข้ามาผลักดันดัชนี

“มองว่าไม่มีความจำเป็นที่รัฐต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และจากนี้หากรัฐบาลจะมีการประกาศมาตรการอะไรออกมาควรพิจารณาให้รอบคอบก่อน เพราะแค่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ อีกทั้งถ้าสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่มีความชัดเจน จะทำให้นักลงทุนต่างประเทศหันไปลงทุนในตลาดหุ้นอื่น ซึ่งจะกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดบอนด์ ในช่วงระยะสั้น”

ตลท.เตรียมโรดโชว์สิงคโปร์-ออสเตรเลีย

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนที่จะไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) 2 ประเทศ คือ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งตามแผนปกติแล้วตลาดหลักทรัพย์จะมีการไปโรดโชว์ต่างประเทศประมาณปีละ 7 ครั้ง แต่จากสถานการณ์การเมืองในครั้งนี้ ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีที่จะเดินหน้าผลักดันเกณฑ์การจดทะเบียนของบริษัทต่างประเทศให้เรียบร้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น