xs
xsm
sm
md
lg

กคช.หลังชนฝาเร่ขายแลนด์แบงก์ใช้หนี้ดอกเบี้ยบ้านเอื้อฯ 9 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กำลังซื้อประชาชนตก หวั่นยอดขายบ้านเอื้อ-เคหะชุมชนหด การเคหะฯ ดิ้นขนแลนด์แบงก์ 7 แปลงเด็ดเร่ขายหวังนำเงินโปะหนี้ดอกเบี้ยบ้านเอื้อฯ 9,000ล้านบาท พยุงรายได้ปี 57 พร้อมส่งทีมการตลาดลุยเก็บข้อมูลช่วงรอรัฐบาลใหม่ พร้อมนำโครงการ “บาย NHA” มาปรับปรุงใหม่ขายควบคู่กับโครงการแพกเกจ 1 ลุยขายไปพร้อมบ้านเอื้ออาทร และเคหะชุมชน หลังได้ตั้งรัฐบาล

นางพรรรณสุภา ยุทธภัณฑ์บริภาร รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า นอกจากการขายโครงการบ้านเอื้ออาทรแล้ว ในปีนี้การเคหะฯ ยังต้องหารายได้เข้าองค์กรเพิ่ม เพื่อให้รายได้ของการเคหะฯ เป็นไปตามเป้าหมาย รองรับแผนธุรกิจในปีนี้ ซึ่งการเคหะฯ ต้องการเพิ่มรายได้ และลดค่าใช้จ่ายองค์กร รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการทำงานในอนาคต โดยการเพิ่มรายได้ดังกล่าวจะมาจากการนำที่ดินสะสมที่มีอยู่ออกมาขาย ทั้งนี้ กคช.ได้เตรียมที่ดินแปลงใหม่ จำนวน 7 แปลง และที่ดินแปลงเดิมที่เคยเปิดขายในปี 2556 ที่ผ่านมาแต่ยังขายไมสามารถขายออกได้ จำนวน 12 แปลง ออกขายพร้อมกัน

สำหรับที่ดินแปลงใหม่ประกอบด้วย ที่ดินที่การเคหะฯ ซื้อไว้สำหรับสร้างบ้านเอื้ออาทรแต่มีการยกเลิกไป และที่ดินสะสม (แลนด์แบงก์) ที่มีอยู่เดิม ประกอบด้วย ที่ดินที่จังหวัดสมุทรปราการ 31 ไร่ จ.สกลนคร 29 ไร่ จ.ภูเก็ต 28 ไร่ อ.หนองหอย จ.เชียงใหม่ 42 ไร่ บึงกาฬ 113 ไร่ ส่วนที่ดินแปลงที่เคยประกาศขายแล้ว ได้แก่ ที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่ บางพลี สมุทรปราการ ดอยสะเก็ด นราธิวาส และที่ดินของโครงการบ้านเอื้ออาทร คือ ที่จังหวัดนครสวรรค์ ระยอง กาญจนบุรี ตราด และขอนแก่น

นางพรรณสุภา กล่าวว่า แผนการขายที่ดินทั้งดังกล่าวจะเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ของ กคช.ในปีนี้ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายที่ดินการเคหะฯจะนำมาลดดอกเบี้ย และใช้หนี้สินที่การเคหะฯ มีอยู่ ซึ่งในปี 2557 นี้ การเคหะแห่งชาติจะต้องใช้หนี้สินทั้งสิ้น 9,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมยอดขายในปีนี้ตั้งไว้ที่ 12,000-13,000 ล้านบาทโดยจะนำมาจ่ายหนี้ 9,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำไปเป็นค่าใช้จ่าย โดยคาดว่าปีนี้จะมีกำไรประมาณ 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2558 กคช. ตั้งเป้ายอดขายตั้งไว้ที่ประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 57 เนื่องจากงานก่อสร้างโครงการยังไม่เสร็จ ทำให้ไม่มีสินค้าขายให้แก่ลูกค้าในตลาด

นางพรรรณสุภา กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีการประกาศยุบสภาของรัฐบาล การนำเสนอโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย โครงการแพกเกจ 1 ซึ่งจะเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยของปี 2557-2559 ซึ่งไม่ใช่โครงการบ้านเอื้ออาทร จำนวนทั้งสิ้น 49,000 หน่วย โดยในเฟสแรกของปี 2557 ที่ได้ผ่านการเห็นชอบจากสภาพัฒน์มาขั้นหนึ่งแล้ว เพื่อพัฒนาโครงการล็อตแรกก่อน จำนวน 38 โครงการ 16,000 หน่วย ต้องชะลอออกไป เนื่องจากยังต้องรอนำเสนอเข้า ครม.ใหม่ จากเดิมที่การเคหะฯวางแผนที่จะทำการขาย และทำการก่อสร้างในปีนี้

“ขณะนี้ทุกอย่างต้องเลื่อนออกไปก่อน ซึ่งในระยะสั้นคงไม่มีผลอะไร แต่ในระยะยาวจะส่งผลให้แผนงานที่วางได้รับผลกระทบ การก่อสร้างโครงการจะไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนด ส่งผลให้การเคหะฯ ไม่มีสินค้าขาย ส่งผลมาถึงรายได้รวมตามลำดับ เพราะทุกขั้นตอนจะต้องขยับออกไปหมด อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ต้องรอการจัดตั้งคณะรัฐบาลใหม่ ทีมการตลาดก็ทำงานหนักมากขึ้นโดยการออกไปสำรวจตลาดให้มีข้อมูลอัปเดตต่อเนื่อง เพราะเมื่อนำเข้า ครม. ชุดใหม่ที่ก็จะต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อม และมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันด้วย”

นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเดิม “บาย NHA” ซึ่งได้มีการอนุมัติโครงการไปก่อนหน้านี้ รูปแบบไม่ใช่โครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ขณะนี้ชะลอการก่อสร้างไปด้วย ทั้งนี้ ทางบอร์ดการเคหะฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาจะนำมาปรับเรื่องการพัฒนาโครงการได้อย่างไรบ้าง เพื่อที่จะเตรียมตัวขายในปีนี้เช่นกัน

นางพรรณสุภา กล่าวว่า ฉะนั้นในปีงบประมาณ 2557 นี้ (ต.ค.56-ก.ย.57) ระยะเวลาอีก 3ไตรมาสที่เหลือ จะมีโครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการเคหะชุมชน และโครงการแพกเกจ 1 และโครงการ บาย NHA รอที่จะผ่าน ครม. และขายพร้อมกันไป 4 โครงการ ซึ่งขณะนี้ ทางการเคหะฯต้องเตรียมบุคลากรให้เต็มที่ หากมีการจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ในอนาคต จะได้เริ่มดำเนินการขายได้ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น