กคช.แจงยอดขาย 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 57 ตกเป้า โดยมียอดขาย 3,900 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 5,200 ล้านบาท 25% หลังผลกระทบการเมือง-เศรษฐกิจชะลอตัว ระบุลูกค้ากังวลความปลอดภัยในการเดินทางไปซื้อห้องชุดในโครงการ แจงความคืบหน้าการขายที่ดินสะสมล่าสุดสร้างยอดขายไดแล้วกว่า 70 ล้านบาท
นางพรรณสุภา ยุทธภัณฑ์บริภาร รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า ผลประกอบการในรอบ 4 เดือน ประมาณปีงบประมาณ 2557 ของการเคหะฯ ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว จนถึงเดือนมกราคมปีนี้ การขายโครงการบ้านเอื้ออาทร ของการเคหะแห่งชาติ สามารถทำยอดขายได้รวม 3,900 หน่วย หรือประมาณ 75% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในช่วง 4 เดือนนี้ คือ 5,200 หน่วย ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ยอดขายรวมของ กคช. ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้มาจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และผลกระทบทางการเมือง เพราะลูกค้าเกรงเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางมาซื้อโครงการ ส่งผลให้แผนไม่เป็นไปตามเป้าหมายใน 4 เดือนที่ตั้งไว้
“อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวการเคหะฯ ได้ทำการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยได้ให้ทีมการตลาด และการขาย และทีมบริหารงานขาย เข้าไปสำรวจดูโครงการบ้านเอื้ออาทรที่คงเหลือเพื่อดำเนินการซ่อมแซม เพื่อขาย หรือให้เช่าแก่ลูกค้าโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ ในโซนของอาคารที่คงเหลือ ในกรณีที่เป็นชั้น 5 การเคหะฯ จัดโปรโมชันพิเศษด้วยการติดเหล็กดัด และมุ้งลวดให้ เพื่อจูงใจลูกค้าในการตัดสินใจ และกระตุ้นการปิดการขายให้เร็วขึ้น”
นอกจากการขายโครงการบ้านเอื้ออาทรแล้ว ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา การดำเนินการเกี่บวกับการขายที่ดินสะสมของการเคหะฯ เพื่อนำเงินไปใช้หนี้เงินกู้โครงการบ้านเอื้ออาทร และเสริมรายได้ของ กคช.ในปีนี้ ปรากฏว่า สามารถขายที่ดินแปลงย่อยตามแผน ทำให้มีรายได้เข้ามาแล้วมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท โดยขายที่ดินในโครงการบางพลี จ.สมุทรปราการ ขอนแก่น และหนองหอย ที่เชียงใหม่
ส่วนในกรณีที่เป็นอาคารที่ต้องซ่อมแซมเพื่อขาย และให้เช่าก็ได้เร่งเข้าไปซ่อมแซมเพื่อให้ลูกค้าเข้าอยู่ได้โดยเร็วอีกช่องทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ โซนที่ยังต้องดำเนินการเร่งขายยังเป็นโซนปริมณฑล เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี และนนทบุรี ส่วนในกรุงเทพฯ มีน้อยมากจะมีก็กลุ่มลูกค้าที่ซื้อไปแล้วไม่สามารถกู้ผ่านแบงก์ที่นำมาขายใหม่แต่ก็มีน้อยมากๆ เพราะส่วนใหญ่ขายหมดแล้ว
รองผู้ว่าการการเคหะฯ กล่าวอีกว่า ในวาระที่การเคหะแห่งชาติ ครบรอบปีที่ 41 ในปีนี้ การเคหะแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานของภาครัฐที่มีหน้าที่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยได้มีบ้านเป็นของตัวเอง การเคหะฯ มีความภูมิใจมากที่ได้สร้างที่อยู่อาศัยซึ่งเป็น 1 ในปัจจัย 4ให้คนได้มีที่อยู่ และความมั่นคงในชีวิต โดยเรียกได้ว่า การเคหะแห่งชาติ เป็นหน่วยงานที่สร้างที่อยู่อาศัยให้คนมีบ้านอยู่มากที่สุดในประเทศไทย โดยครอบครัวหนึ่งจะมีสมาชิกอยู่ประมาณ 3-4 คน โดยตลอด 41 ปี คนที่มีรายได้น้อย สามารถซื้อบ้านจากการเคหะแห่งชาติเป็นเจ้าของได้เองเป็นความภูมิใจมากที่ทำให้คนมีความสุขกับโครงการของการเคหะแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม และอีกหนึ่งโครงการที่การเคหะแห่งชาติภาคภูมิใจก็คือ โครงการบ้านเอื้ออาทร โดยโครงการได้เริ่มเมื่อปี 2546 มาถึงวันนี้ ปี 2557 ระยะเวลา 10 ปี ของการดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร เพียง 10 ปีการเคหะฯสามารถสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทร ได้ถึง 281,556 หน่วยในระยะเวลาเพียง 10 ปีเท่านั้น หากเทียบกับการสร้างบ้านมาตลอดครบ 41 ปีของการเคหะฯ โดยรวมทั้งหมด 706,000 หน่วย ซึ่งโครงการบ้านเอื้ออาทรเป็นความภูมิใจ และถือเป็นโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยของการเคหะฯ ที่ประสบความสำเร็จด้วยดี เพราะลูกบ้านที่ให้การตอบรับเดิมเป็นกลุ่มคนประกอบอาชีพลูกจ้าง และค้าขายเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่าในขณะนี้มีกลุ่มคนทำงานที่จบระดับปริญญาตรี และปริญญาโทเข้ามาอยู่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโครงการบ้านเอื้ออาทรได้รับการตอบรับจากลูกค้าทุกกลุ่มทั่วถึงมากขึ้น จึงเป็นความภูมิใจของการเคหะแห่งชาติเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปการเคหะแห่งชาติ ก็ยังเดินหน้าพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ที่ต้องการมีบ้านต่อไป ตามนโยบายของรัฐบาล และสำหรับลูกค้าที่มีรายได้น้อยต่อไป โดยถือหลักการบริการลูกค้าเป็นหัวใจหลัก