“คลัง” ผวาการเมืองยืดเยื้อเกิน 1-2 เดือน กระทบแผนรีดภาษีปีงบ 57 ต่ำกว่าเป้าหมาย “รังสรรค์” สั่ง 3 กรมภาษีเร่งถกวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บรายได้
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเป็นห่วงการเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2557 เนื่องจากได้รับผลกระทบทางการเมือง ทำให้ปะชาชนและผู้ประกอบการไม่มั่นใจบริโภคและลงทุน ส่งผลทำให้การเก็บภาษีของรัฐบาลอาจต่ำกว่าเป้าตามไปด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงที่มีรัฐบาลรักษาการทำให้ไม่สามารถออกนโยบายใหม่มากระตุ้นเศรษฐกิจ หรือเพิ่มการจัดเก็บภาษีใหม่ๆ ได้ ทำให้การเก็บรายได้ของรัฐบาลที่เหลือของปีงบประมาณ 2557 จะมีปัญหาเพิ่มมากขึ้น หากการเมืองจบได้ยังพอมีหวังเก็บรายได้ตามเป้า แต่หากการเมืองยืดเยื้อเกิน 1-2 เดือน คาดว่าจะทำให้ลำบากที่จะเก็บรายได้ให้เข้าเป้าที่ตั้งไว้กว่า 2.25 ล้านล้านบาท
โดยขณะนี้ตนเองได้สั่งการให้ 3 กรมภาษี คือ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ทำงานรวมกันอย่างใกล้ชิด มีการประชุมร่วมเพื่อวางแผนการเก็บภาษีตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้การเก็บภาษีได้มากขึ้น เช่น ที่ผ่านมามีการนำเข้ามาสำแดงราคาต่ำเพื่อเสียภาษีศุลกากรต่ำ แต่พอไปแจ้งเสียภาษีนิติบุคคลกับกรมสรรพากรกลับแจ้งราคาสูง เพื่อสร้างรายจ่ายให้มีกำไรน้อย จะได้เสียภาษีไม่มาก แต่เมื่อกรมภาษีทำงานรวมกันและมีการวางระบบไอทีเชื่อมต่อกัน ทำให้ผู้เสียภาษีไม่สามารถหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีได้อีกต่อไป เพราะกลัวถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลัง
นอกจากนี้ ทางกรมสรรพากร ได้ไปทำข้อตกลงกับหลายประเทศในการตรวจสอบราคานำเข้าสินค้าจากประเทศต้นทางกับราคาที่นำเข้าให้ตรงกัน หากพบว่าผู้ประกอบการแจ้งราคาต่ำกว่าที่แจ้งไว้ในประเทศต้นทาง ก็จะขอให้กรมสรรพากรประเทศต้นทางเข้าไปตรวจสอบผู้เสียภาษีดังกล่าวว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่
สำหรับการเก็บภาษีต้องเพิ่มประสิทธิภาพ ตนเองคิดว่าที่ผ่านมาการเก็บภาษีของกรมภาษียังไม่เต็มร้อย โดยเฉพาะการทำงานร่วมกัน ไม่มีการพูดคุยกัน ทำให้ประสิทธิภาพในการตรวจสอบผู้เสียภาษีไม่ดีเหมือนการร่วมมือกันทำงานในปัจจุบัน การที่ตรวจเสียภาษีให้ดีตั้งแต่ต้นทาง โดยเฉพาะการนำเข้า จะทำให้การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร และภาษีของกรมสรรพสามิตได้เพิ่มขึ้น
นายรังสรรค์ กล่าวเสริมว่า การเก็บภาษีของกรมสรรพากรในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2557 ยังเกินเป้าประมาณ 7.1 พันล้านบาท แม้ว่าจะมีการลดภาษีนิติบุคคลลงแล้วก็ตาม และการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการเก็บรายได้ของกรมสรรพากร เพราะบุคคลมีรายได้สูงขึ้น แม้ได้ลดอัตราภาษีก็ยังทำให้กรมสรรพากรเก็บภาษีได้มากขึ้น
สำหรับกรมสรรพสามิต ไตรมาสแรกเก็บภาษีต่ำกว่าเป้า 1 หมื่นล้านบาท เพราะไม่ได้ปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเป็น 1.40 บาทต่อลิตร ตามที่ระบุไว้ในเอกสารงบประมาณ ส่วนกรมศุลกากร เก็บภาษีต่ำกว่าเป้า 6 พันล้านบาท แต่คาดว่าจะเก็บภาษีได้มากขึ้นจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมากในช่วงที่ผ่านมา
โดยการเพิ่มอัตราภาษีใหม่ๆ ต้องรอนโยบายจากรัฐบาลใหม่ แต่กระทรวงการคลังได้มีการเตรียมไว้แล้ว เช่น การเก็บภาษีเครื่องดื่มชาเขียว และเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ และผู้บริโภค
โดยก่อนหน้านี้ นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ออกมาระบุว่า ตนเองได้เสนอแผนการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2557 ให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณา โดยยอมรับว่าขณะนี้มีสัญญาณการเก็บรายได้ที่เสี่ยงจะต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโตได้ต่ำกว่า 3% จากเดิมที่ 4.5%