เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ประกาศทุ่มงบ 3.82 พันล้านบาท ให้บริษัทย่อย PT.TRI TUNGGAL PITRIATI (TTP) ซื้อสิทธิขุดเจาะถ่านหิน 43.05 ล้านตัน เพียงพอสำหรับขายยาวไปถึง 10 ปีข้างหน้า จาก PT.JHOSWA MAHAKAM MINERAL (JMM) วางแผนเปิดหน้าดินไตรมาส 2/57 เริ่มขุด และส่งลำเลียงป้อนให้ลูกค้าได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/57 เป็นต้นไป พร้อมรับรู้รายได้ทันที โดยปริมาณสำรองดังกล่าวเพียงพอสำหรับการขายยาวไปถึง 10 ปีข้างหน้า “ขจรพงศ์ คำดี” เผยปริมาณสำรองถ่านหินของ EARTH ขยับขึ้นเป็น 80 ล้านตัน ระบุไม่หยุดนิ่งที่จะยกระดับความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ และความมั่นคงให้แก่บริษัท เชื่อเหมืองใหม่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว และดันรายได้ในอนาคตเติบโตโดดเด่น ทำให้อัตรากำไรสุทธิดีขึ้น สร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้สูงขึ้น
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2556 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2556 มีมติอนุมัติให้บริษัท ให้ PT.TRI TUNGGAL PITRIATI (“TTP”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EARTH (ถือหุ้น 100%) เข้าซื้อสิทธิการขุดเจาะถ่านหิน (EXCLUSIVE COAL OFFTAKE) จาก PT.JHOSWA MAHAKAM MINERAL (JMM) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในประเทศอินโดนีเซีย และได้รับสัปทานจากรัฐบาลให้สามารถขุดถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียได้ ในปริมาณสำรอง 43,050,000 ตัน (Mineable Resource) คิดเป็นพื้นที่สัมปทาน 4,017 Ha หรือประมาณ 25,106ไร่ บนพื้นที่อีสต์กาลิมันตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 3,820,657,500 บาท
ทั้งนี้ “JMM” อยู่ระหว่างเปลี่ยนใบอนุญาตสัมปทานจาก IUP Exploration เป็น IUP Production Operation และขอใบอนุญาตประเภท Forest Land Borrow-to-Use Permit โดยใบอนุญาตสัมปทานมีอายุสัมปทาน 5 ปี ต่ออายุคราวละ 5 ปี ซึ่งเหมืองที่ “TTP” ซื้อสิทธิในการขุดเจาะถ่านหินจาก “JMM” ได้มีการสำรวจข้อมูลจากผู้ประเมินอิสระเพื่อจัดทำรายงาน (Joint Ore Reserves Committee : JORC) เรื่องปริมาณสำรองถ่านหินเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเปิดหน้าดินได้ในช่วงไตรมาส 2/2557 เริ่มขุดถ่านหินจำหน่ายได้ในไตรมาส 4/2557 และทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทันที
“TTP ยืมเงินจาก EARTH ซึ่งนำมาจากกำไรสะสมของบริษัท ไปชำระเป็นเงินสดให้แก่ JMM ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงของธุรกิจถ่านหิน โดยการเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหิน (Mining) ที่มีปริมาณสำรองของถ่านหินในปริมาณค่อนข้างสูง ถือเป็นการลดความเสี่ยงในด้านการจัดหาวัตถุดิบ และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวของบริษัท อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ในอนาคต เนื่องจากมีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตนเอง รวมถึงทำให้อัตรากำไรสุทธิดีขึ้น”
อย่างไรก็ตาม เหมืองแห่งใหม่นี้ถือเป็นเหมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของบริษัท ที่มีปริมาณสำรองถ่านหิน 43 ล้านตัน ซึ่งอยู่ในแผนขยายธุรกิจ 5 ปี 5 เหมือง 5 ประเทศของบริษัทที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และบริษัทยังคงหาแหล่งถ่านหินสำรองเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน EARTH มีปริมาณสำรองถ่านหิน (Reserve) บนพื้นที่เซาท์กาลิมันตัน ประเทศอินโดนีเซีย เหลือประมาณ 3 ล้านตัน และในปี 2557 ปริมาณสำรองถ่านหินในพื้นที่ดังกล่าวจะหมดลง แต่บริษัทยังมีเหมืองถ่านหินที่รัฐทวาย ประเทศพม่า อีกประมาณ 40 ล้านตัน ซึ่งยังเพียงพอที่จะรองรับคำสั่งซื้อได้อีกมาก และเมื่อรวมเหมืองแห่งใหม่ที่ได้มาอีก 43 ล้านตัน รวมแล้วขณะนี้ EARTH ยังมีปริมาณสำรองถ่านหินประมาณ 80 ล้านตัน สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้นานถึง 10 ปี
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2556 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2556 มีมติอนุมัติให้บริษัท ให้ PT.TRI TUNGGAL PITRIATI (“TTP”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EARTH (ถือหุ้น 100%) เข้าซื้อสิทธิการขุดเจาะถ่านหิน (EXCLUSIVE COAL OFFTAKE) จาก PT.JHOSWA MAHAKAM MINERAL (JMM) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในประเทศอินโดนีเซีย และได้รับสัปทานจากรัฐบาลให้สามารถขุดถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียได้ ในปริมาณสำรอง 43,050,000 ตัน (Mineable Resource) คิดเป็นพื้นที่สัมปทาน 4,017 Ha หรือประมาณ 25,106ไร่ บนพื้นที่อีสต์กาลิมันตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 3,820,657,500 บาท
ทั้งนี้ “JMM” อยู่ระหว่างเปลี่ยนใบอนุญาตสัมปทานจาก IUP Exploration เป็น IUP Production Operation และขอใบอนุญาตประเภท Forest Land Borrow-to-Use Permit โดยใบอนุญาตสัมปทานมีอายุสัมปทาน 5 ปี ต่ออายุคราวละ 5 ปี ซึ่งเหมืองที่ “TTP” ซื้อสิทธิในการขุดเจาะถ่านหินจาก “JMM” ได้มีการสำรวจข้อมูลจากผู้ประเมินอิสระเพื่อจัดทำรายงาน (Joint Ore Reserves Committee : JORC) เรื่องปริมาณสำรองถ่านหินเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเปิดหน้าดินได้ในช่วงไตรมาส 2/2557 เริ่มขุดถ่านหินจำหน่ายได้ในไตรมาส 4/2557 และทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทันที
“TTP ยืมเงินจาก EARTH ซึ่งนำมาจากกำไรสะสมของบริษัท ไปชำระเป็นเงินสดให้แก่ JMM ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงของธุรกิจถ่านหิน โดยการเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหิน (Mining) ที่มีปริมาณสำรองของถ่านหินในปริมาณค่อนข้างสูง ถือเป็นการลดความเสี่ยงในด้านการจัดหาวัตถุดิบ และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวของบริษัท อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ในอนาคต เนื่องจากมีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตนเอง รวมถึงทำให้อัตรากำไรสุทธิดีขึ้น”
อย่างไรก็ตาม เหมืองแห่งใหม่นี้ถือเป็นเหมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของบริษัท ที่มีปริมาณสำรองถ่านหิน 43 ล้านตัน ซึ่งอยู่ในแผนขยายธุรกิจ 5 ปี 5 เหมือง 5 ประเทศของบริษัทที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และบริษัทยังคงหาแหล่งถ่านหินสำรองเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน EARTH มีปริมาณสำรองถ่านหิน (Reserve) บนพื้นที่เซาท์กาลิมันตัน ประเทศอินโดนีเซีย เหลือประมาณ 3 ล้านตัน และในปี 2557 ปริมาณสำรองถ่านหินในพื้นที่ดังกล่าวจะหมดลง แต่บริษัทยังมีเหมืองถ่านหินที่รัฐทวาย ประเทศพม่า อีกประมาณ 40 ล้านตัน ซึ่งยังเพียงพอที่จะรองรับคำสั่งซื้อได้อีกมาก และเมื่อรวมเหมืองแห่งใหม่ที่ได้มาอีก 43 ล้านตัน รวมแล้วขณะนี้ EARTH ยังมีปริมาณสำรองถ่านหินประมาณ 80 ล้านตัน สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้นานถึง 10 ปี