“กิตติรัตน์” หารือ กกต. อุดปัญหา “จำนำข้าว” ยันชาวนาที่มีใบประทวนได้เงินแน่

รักษาการ ครม. ห่วงเศรษฐกิจต้นปีหน้าหากไม่มีการเลือกตั้ง หวั่นต่างชาติถอนทุน “กิตติรัตน์” รุดหารือ กกต. เดินหน้าโครงการเศรษฐกิจสำคัญเพื่อประคองไม่ให้สะดุด ย้ำดูแลนโยบายลดภาษีดีเซล ส่วนโครงการจำนำข้าวต้องเสร็จใน ก.พ. ยืนยันชาวนาที่ได้รับใบประทวนไปแล้วจะได้รับเงินแน่นอน โดยกระทรวงการคลัง จะบริหารเงินจำนำข้าวให้อยู่ในกรอบเงินกู้ 5 แสนล้าน โดยมาจากการเร่งระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ และเงินกู้ซึ่งยังมีช่องว่างให้หาแหล่งเงินกู้มาบริหาร

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการ แสดงความเป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจไทย หลังจากได้รับผลกระทบจากการชุมนุม โดยเฉพาะการปิดกระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 ถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ทำให้ไม่สามารถอนุมัติให้เอกชนจัดซื้อจัดจ้างโครงการลงทุนไปหลายโครงการที่สำคัญ

นอกจากนี้ รักษาการ ครม. ยังมีความเป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจไตรมากแรกปี 2557 หากไม่มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 หวั่นเกรงว่าต่างชาติ โดยเฉพาะสหรัฐฯ จะขาดความเชื่อมั่นกับประเทศที่ไม่มีระบอบประชาธิปไตยด้วยการเลือกตั้ง จนทำให้มีปัญหาเงินทุนไหลออก ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่า อีกทั้งมาตรการอัดฉีดเงินสู่ระบบของสหรัฐฯ (คิวอี) ปัญหาการชะลอตัว

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ จึงมอบหมายให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ดูแลเศรษฐกิจให้มีความต่อเนื่อง โดยช่วงนี้ต้องอาศัยความเชื่อมั่นของเอกชน เพื่อให้เกิดการลงทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจ ทดแทนการเบิกจ่ายของภาครัฐที่ล่าช้าออกไป

ด้าน นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า โครงการด้านเศรษฐกิจที่สำคัญที่ ครม.ได้อนุมัติไปแล้ว เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องจึงเตรียมทำหนังสือหารือกับ กกต. ในการเดินหน้าโครงการดังกล่าวไม่ให้สะดุด และไม่ได้เป็นนโยบายที่เกิดขึ้นใหม่เพื่อจัดสรรเงินเพิ่มเติม เช่น การยกเว้นภาษี สรรพสามิต น้ำมันดีเซล ซึ่งได้ยกเว้นต่อเนื่องมาทุกเดือน

ขณะที่การให้ธนาคารเฉพาะกิจปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะครบกำหนดในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ จึงต้องหารือเพื่อขยายโครงการไม่ให้เอกชนได้รับผลกระทบ

ส่วนโครงการจำนำข้าวฤดูกาลผลิต ปี 56/57 รัฐบาลจะต้องรับจำนำข้าวนาปีให้แล้วเสร็จในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนนาปรังต้องให้รัฐบาลชุดต่อไปเป็นผู้พิจารณา โดยยืนยันชาวนาที่ได้รับใบประทวนไปแล้วขณะนี้จะได้รับเงินจำนำข้าวอย่างแน่นอน โดยกระทรวงการคลัง จะบริหารเงินจำนำข้าวให้อยู่ในกรอบเงินกู้ 5 แสนล้านบาท โดยมาจากการเร่งระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ และเงินกู้ซึ่งยังมีช่องว่างให้หาแหล่งเงินกู้มาบริหาร

สำหรับในส่วนของการชดเชยปัจจัยการผลิตให้แก่ชาวสวนยางที่เหลือกว่า 1 หมื่นล้านบาท ยังต้องจ่ายให้เหมือนเดิม เพื่อให้ครบจำนวนตามที่เกษตรกรขึ้นบัญชีไว้

นอกจากนี้ ตนเองยังได้กำชับการทำงานของ ครม.ด้านเศรษฐกิจ ดูแลโครงการต่างๆ ให้มีความต่อเนื่อง เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อส่งต่อให้แก่ ครม.ชุดใหม่ ที่จะเข้ามาบริหาร ส่วนรัฐมนตรีคนใดมีภารกิจในการลงพื้นที่หาเสียง จะต้องไม่ใช้เวลาราชการในการลงพื้นที่