ภาคี 5 เครือข่าย ออกแถลงการณ์จี้ “ปู-ครม.รักษาการ” ลาออกเพื่อประเทศ พร้อมให้สภาที่เหลืออยู่ตั้งนายกฯ-ครม.ชั่วคราวที่ทุกภาคส่วนยอมรับ เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย จึงค่อยจัดการเลือกตั้ง ด้าน “เนาวรัตน์” อ่านบทกวี “นักกินเมือง” ร่วมหนุน
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่อาคารสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข ภาคีเครือข่าย 5 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายคนรักสุขภาพ เครือข่ายคนรักประเทศไทย เครือข่ายสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย เครือข่ายสุขภาพแห่งชาติ และเครือข่ายคนรุ่นใหม่หัวใจพลเมือง อันประกอบด้วย ผู้แทนจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ประชาชน เอกชน และภาควิชาการทั่วประเทศ ได้ร่วมกันแสดงจุดยืนและเสนอทางออกวิกฤตการณ์ทางการเมือง โดยออกแถลงการณ์เรื่อง “ขอให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจถอยเพื่อชาติ” มีใจความดังนี้
ตามที่บ้านเมืองได้เคลื่อนเข้าสู่ความไม่สงบมาเป็นเวลา 1 เดือนเศษแล้ว อันมีผลพวง มาจากการที่พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลลุแก่อำนาจ ทำในเรื่องต่างๆ ที่ไม่สมควร จนเป็นที่มาซึ่งการเดินขบวนต่อต้านของมวลมหาประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 รัฐบาลได้ชิงความได้เปรียบทางการเมือง ประกาศยุบสภา ให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อหวังกลับเข้ามามีอำนาจอีกเช่นเดิม โดยไม่มีความจริงใจที่จะปฏิรูประบบการเมือง กฎเกณฑ์กติกาต่างๆ ก่อนจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ เพื่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทยตามที่ทุกฝ่ายในสังคมเรียกร้องกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้องตามคำสั่งการของผู้มีอำนาจนอกประเทศ
เครือข่ายคนรักสุขภาพ เครือข่ายคนรักประเทศไทย เครือข่ายสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย เครือข่ายสุขภาพแห่งชาติ และเครือข่ายคนรุ่นใหม่หัวใจพลเมือง ที่ประกอบด้วย ผู้คนจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ประชาชน เอกชน และภาควิชาการทั่วประเทศ รวมตัวกันทำงานขับเคลื่อนการสร้างสังคมสุขภาวะอย่างต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว พิจารณาเห็นว่าขณะนี้ประเทศชาติได้เข้าสู่วิกฤตถึงที่สุด และเหตุการณ์ต่างๆ กำลังจะบานปลายไปในทางเลวร้ายหาทางออกไม่ได้ หากรัฐบาลยังคงดื้อดึง ไม่นำพาต่อเสียงเรียกร้องอย่างสันติของมวลมหาประชาชนที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญเครือข่ายฯจึงขอแสดงเจตนารมณ์และเรียกร้อง ดังนี้
1.ให้นายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ตัดสินใจเป็นผู้เสียสละเพื่อชาติ โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะลาหยุดการรักษาการทันที เพื่อเปิดช่องทางให้มีการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญฯ ให้มีคนนอกเข้ามาเป็นคนกลางในการปฏิรูปกฎเกณฑ์กติกาต่างๆ ที่สำคัญ ในเวลาไม่เกิน 1-2 ปี เพื่อนำไปสู่การปฏิรูประเทศไทยอย่างแท้จริง
ณ เวลานี้ การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีจะนำพาประเทศไปทางดีหรือร้ายก็ได้ และจะทำให้ประวัติศาสตร์จารึกว่าเป็นวีรสตรีผู้กล้าหาญตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง หรือเป็นไปอย่างตรงกันข้ามก็ได้
2.ขอให้มีการดำเนินการตามมาตรา 7 แห่งรัฐธรรมนูญฯ เพื่อให้มีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่เป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกภาคส่วน โดยไม่มีพรรคการเมืองและแกนนำเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง มาทำหน้าที่บริหารประเทศชั่วคราว และดำเนินการให้ประชาชนทุกฝ่ายได้เข้ามาร่วมกันทำการปฏิรูป แก้ไขกฎเกณฑ์กติกาสำคัญต่างๆ แล้วจัดให้มีการทำประชามติ จากนั้นจึงจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามกติกานั้นต่อไป
นายวิสุทธิ บุญญะโสภิต ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า แถลงการณ์ฉบับนี้มีสมาชิกเครือข่ายทั่วประเทศร่วมลงชื่อสนับสนุนแนวทางดังกล่าวมากกว่า 1,000 รายชื่อ ซึ่งหลังจากนี้จะเดินรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้ใช้โอกาสนี้ร่วมกันแสดงพลังขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพื่อให้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนการสรรหานายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ทุกภาคส่วนยอมรับได้นั้นเป็นบทบาทของสภาที่ยังคงเหลืออยู่ในการกำหนด ซึ่งชัดว่าจะต้องไม่มีนักการเมืองและพรรคการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง
นางรัตนา สมบูรณ์วิทย์ เครือข่ายสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ที่จิตสำนึกของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะต้องลาออกจากการรักษาการเพื่อประเทศ เนื่องจากรัฐบาลจะต้องบริหารประเทศตามหลักนิติธรรม แต่สิ่งที่รัฐบาลกระทำลงไปนั้นชัดเจนว่าขัดทั้งต่อนิติรัฐและนิติธรรม หมดความน่าเชื่อถือ สามารถลาออกได้ ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งนักวิชาการนิติศาสตร์ก็ระบุชัดเจนว่าต้องลาออกเรื่องจึงจะยุติได้ เพราะการเลือกตั้งยังไม่ใช่ทางออกต้องมีการปฏิรูปก่อน ซึ่งยังเป็นเรื่องที่อยู่ในพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ จากนี้คงต้องย้อนถามไปยังนายกรัฐมนตรีแล้วว่าจะสร้างชื่อไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทย หรือจะเป็นผู้ทำลายประวัติศาสตร์
นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เครือข่ายคนรักสุขภาพ กล่าวว่า หลังจากนี้ นายกฯจะต้องตัดสินใจลาออกทันที หากไม่ลาออกก็จะใช้วิธีการสันติอย่างที่ทำอยู่ คือใช้พลังกดดันทุกรูปแบบ แต่ไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งขณะนี้เราต้องสู้กับสื่อต่างประเทศด้วย เนื่องจากมีการรายงานข่าวจำนวนผู้ออกมาชุมนุมบิดเบือนน้อยกว่าความเป็นจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากอ่านแถลงการณ์แล้ว นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ ได้อ่านบทกวีชื่อ “นักกินเมือง” มีใจความว่า
ยกพวกมากลากตั้งขึ้นบังอาจ
เป็นกังฉินกินชาติสุดบัดสี
เอาเลือกตั้งขึ้นตั้งเป็นตราตี
ให้ปู้ยี่ปู้ยำได้ตามใจ
ประโยชน์ชาติชั่วชาติเข้าฉ้อฉล
ยกเอาประโยชน์ตนขึ้นเป็นใหญ่
สร้างโครงกินโครงการบานตะไท
ใช้พวกมากลากไปไม่ฟังกัน
สารพัดสารพิษผิดกฎหมาย
เอาอำนาจเป็นนายขึ้นเหนือนั่น
ทำฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้างขึ้นกลางวัน
พอจับได้ไล่ทันตะบันตะแบง
กลับมาใช้วิชามารการเลือกตั้ง
จะกี่ครั้งก็ยังโกงกันโจ่งแจ้ง
อัฐยายซื้อขนมยายไม่เปลี่ยนแปลง
ใช้ให้ผีโม่แป้งไม่ต้องเปลือง
อำนาจซื้ออำนาจอุบาทว์ชั่ว
ยกคอกวัวเข้าสภาวางท่าเขื่อง
ถือเอาการเลือกตั้งขึ้นนั่งเมือง
มาเป็นเครื่องฟอกตัวชั่วระยำ
เป็นการเมืองน้ำเน่าเขาวงกต
นักกินเมืองกำหนดกันอิ่มหนำ
จงผองเราเหล่าประชาร่วมกล้านำ
ร่วมดาหน้าเข้ากระหน่ำร่วมคว่ำมัน
หลังจากนั้นจึงเดินรณรงค์รอบอาคารสุขภาพแห่งชาติจำนวน 3 รอบ เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ แสดงจุดยืนในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทยให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น