บิ๊กซีไอเอ็มบีไทย เผยสินเชื่อปีหน้าโตชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ปีนี้ยังได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่ 25% คาดการเมืองกระทบถึง 3-4 เดือนแรกของปีหน้า
นายสุภัค ศิวะรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)(CIMBT) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นก็น่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงในระยะต่อไป เนื่องจากรัฐบาลชุดดังกล่าวเป็นรัฐบาลรักษาการ ดังนั้น การดำเนินนโยบายระยะยาวต่างๆ โดยเฉพาะในด้านการลงทุนก็ต้องชะลอไปก่อน ขณะที่ภาคเอกชนก็จะต้องรอดูท่าทีทางการเมืองก่อนที่จะเริ่มขยายการลงทุน และในภาคการใช้จ่ายก็ยังถูกกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่สูงอยู่แล้ว ดังนั้น ปัจจัยที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ก็ต้องรอการลงทุนภาครัฐ ซึ่งก็หวังว่าสถานการณ์การเมืองจะคลี่คลายได้ในเร็ววัน
“สถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ก็ยังดีที่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง แต่ก็ยังต้องจับตาดูต่อไป และน่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไปถึง 3-4 เดือนแรกของปีหน้า และหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปได้ด้วยความเรียบร้อย”
สำหรับการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปีนี้นั้น น่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25% แม้ว่าจะมีสถานการณ์ทางการเมือง แต่ก็เป็นช่วงปลายปี ขณะที่ต้นปีธนาคารปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นได้ในระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่ได้รับผลกระทบจากตรงนี้มากนัก ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) น่าจะอยู่ในระดับทรงๆ
ส่วนสินเชื่อในปีหน้าก็จะน่าจะเติบโตได้ในอัตราทีชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อโต 25% ภายใต้จีดีพีที่โต 4-5% และในปีนีธนาคารคาดว่าจีดีพีจะเติบโตได้ 3-4% โดยแผนงานอยู่ระหว่างการรอเสนอคณะกรรมการต่อไป
นายสุภัค กล่าวอีกว่า แม้ในปีหน้าผู้ประกอบการบางส่วนอาจจะชะลอการลงทุนออกไปบ้าง แต่ก็เชื่อว่ายังมีบางภาคธุรกิจที่สามารถขยายตัวต่อไป เช่น ภาคการบริการ การส่งออกที่อาจจะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก เป็นต้น รวมถึงธุรกิจร่วมทุนที่จะมีเพิ่มมากขึ้นตามกระแสเออีซี ทั้งในส่วนของการเข้ามาลงทุน และการออกไปลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากประเทศไทยยังมีระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ค่อนข้างพร้อม จึงน่าจะเป็นศูนย์กลางของกลุ่ม CLMV ได้ ซึ่งธนาคารซีไอเอ็มบี ในฐานะธนาคารอาเซียนก็พร้อมที่จะรองรับส่วนนี้อยู่แล้ว