xs
xsm
sm
md
lg

BBL ปล่อยกู้เคซีอี 4.1 พันล. ตั้งเป้าปีหน้าสินเชื่อโต 5-7%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แบงก์กรุงเทพ” ปล่อยกู้รายใหญ่ “เคซีอี” วงเงิน 4.1 พันล้าน สร้างโรงงานแห่งใหม่ เผยปีหน้าตั้งเป้าสินเชื่อโต 5-7% คาดการเมืองกระทบระยะสั้น

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL)เปิดเผยว่า วานนี้ ธนาคารได้ร่วมกับ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) (เคซีอี) ผู้ผลิตและส่งออกแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการลงนามในสัญญาสนับสนุนด้านการเงิน จำนวน 4,150 ล้านบาท

ทั้งนี้ วงเงินกู้ดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างโรงงานแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์แห่งใหม่ ด้วยศักยภาพในด้านการผลิตสินค้าของเคซีอีที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย และได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ รวมถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของโลกที่เติบโตอย่างอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ที่เคซีอีมีความเชี่ยวชาญสูง และอยู่ในกลุ่มชั้นนำของโลก ทำให้ธนาคารเชื่อมั่นว่า เคซีอี จะสามารถนำเงินที่ได้รับไปใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพ และขยายกำลังการผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของโลก และบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้วางไว้

คาดการเมืองกระทบระยะสั้น

สำหรับแผนงานในปี 2557 นั้น ธนาคารอยู่ระหว่างกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ โดยคาดว่าสินเชื่อจะขยายตัว 5-7% ใกล้เคียงกับปีนี้ จากสินเชื่อรวมทั้งระบบคาดว่าจะขยายตัวได้ 6-8% และสอดคล้องกับการขยายตัวของจีดีพีที่ประมาณการไว้ 4-5% ส่วนสินเชื่อในปีนี้น่าจะมีการขยายตัวได้ราว 5-6%

ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ น่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น แม้ว่าอาจทำให้เศรษฐกิจแผ่วลงบ้าง แต่ไม่มากนัก และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรง ขณะที่ความล่าช้าของโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ 2 ล้านล้านบาทนั้น คงจะมีผลกระทบต่อธนาคารไม่มากนัก ธนาคารก็ยังคงระดมเงินฝาก และปล่อยกู้ไปตามปกติ ไม่ได้มุ่งหวังที่โครงการรัฐบาลเพียงอย่างเดียว

“เชื่อว่าปัญหาทางการเมืองไม่มีผลกระทบต่อสินเชื่ออย่างมีนัยสำคัญ และไม่น่าจะส่งผลต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารเพิ่มมากขึ้น แรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจที่สำคัญในปีหน้าน่าจะมาจากการบริโภคในประเทศ การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หวังว่าจะช่วยดึงในเรื่องการส่งออกของไทยให้ดีขึ้นตามไปด้วย ซึ่งหากเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นตัวแปรสำคัญมากกว่าปัจจัยในประเทศ เพราะส่งผลต่อการค้าการลงทุนโดยตรง”

นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาดูในเป็นเรื่องของการประกาศลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณของสหรัฐฯ (QE) ที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะไทยที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือ แต่ก็เชื่อว่าปัจจัยพื้นฐานของไทยยังคงมีความแข็งแกร่งพอที่จะรองรับความผันผวนได้
กำลังโหลดความคิดเห็น