ธปท. เผยเศรษฐกิจ ต.ค. ทรงตัว ประชาชนระวังใช้จ่ายจากภาระหนี้สูง ขณะที่ส่งออกเริ่มมีสัญญาณทรงตัว จากอุปสงค์ในต่างประเทศ แต่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนพร้อมคาดปี 57 ไทยมีความเสี่ยง เผชิญกับภาวะ "ขาดดุลแฝด" ทั้งดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัด หวังประชาชนเข้าใจ เพราะจำเป็นต้องลงทุน
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในเดือนตุลาคม 2556 ทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยการบริโภคภาคเอกชนยังคงซบเซาโดยไม่ขยายตัวเลย เนื่องจากประชาชนยังระมัดระวังการใช้จ่ายจากความเชื่อมั่นที่ลดลง
ขณะที่การส่งออกยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ต่างประเทศบ้าง หดตัวร้อยละ 0.5 หรือมีมูลค่าส่งออก 19,038 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังติดลบร้อยละ 4 จากเดือนก่อนที่ติดลบร้อยละ 2.9 และการลงทุนภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัวนักติดลบร้อยละ 0.9 จากเดือนก่อนหน้าติดลบร้อยละ 0.3 และการนำเข้าหดตัวร้อยละ 4.6 มีมูลค่า 18,701 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวชะลอลงบ้าง แต่ยังขยายตัวได้มากกว่าภาคอื่นๆ โดยขยายตัวได้ร้อยละ 14.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอตัวลงร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน จากผลกระทบของการบังคับใช้กฎหมายด้านการท่องเที่ยวของจีน
นางรุ่ง ยอมรับว่าในปี 2557 ประเทศไทยมีความเป็นไปได้สูงที่จะเผชิญกับภาวะการขาดดุลแฝด จากการขาดดุลทั้งดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด แต่ถือว่าเป็นไปตามภาวะปกติของประเทศที่มีแผนการนำเงินไปลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการต่างๆ และเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจได้ รวมถึงการขาดดุลในรูปแบบดังกล่าวเป็นภาวะปกติของประเทศที่กำลังพัฒนาที่อาจติดลบของดุลการเงินบ้าง
“เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะซึมตัว เห็นได้จากที่ ธปท.ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงเหลือร้อยละ 3 และลดดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือร้อยละ 2.25 สะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางชะลอ รวมทั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้มีปัจจัยบวกที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจน้อยลง และยอมรับว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ไทยจะเกิดภาวะขาดดุลแฝด แต่ถือว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งสิ่งสำคัญคือต้องใช้ศักยภาพให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว”
ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 376 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดือนก่อนที่ขาดดุล 534 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลจากดุลการค้าที่เกินดุล รวมถึงดุลบริการ รายได้ และเงินโอน ส่วนดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 378 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากการออกไปลงทุนต่างประเทศของนักลงทุนไทย ทั้งการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น การให้สินเชื่อการค้าแก่ผู้ส่งออก การให้เงินกู้แก่ต่างประเทศ และการลงทุนโดยตรง รวมทั้งดุลการค้าเกินดุล 337 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากเดือน ก.ย.ที่เกินดุล 2,561 ล้านเหรียญสหรัฐ