หุ้นพลิกเด้งปิดบวก 11.68 จุด เก็งกำไรข่าวการเมือง หลังข่าวลือสะพัดนายกฯ เตรียมไขก๊อกยุบสภาฯ หนีประชาชนชุมนุมขับไล่ โบรกฯ ชี้แค่เล่นข่าวเก็งกำไร การชุมนุมไม่มีเหตุการณ์รุนแรง คงไม่มีอะไร มองวอลุ่มยังไม่ถึง 3 หมื่นล้าน สะท้อนความลังเลการเมืองไม่นิ่ง ขณะที่ยังเชื่อกันว่า การเมืองน่าจะมีข้อสรุปได้ในสัปดาห์หน้า
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (29 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,371.13 จุด เพิ่มขึ้น 11.68 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.86% มูลค่าการซื้อขาย 27,496.37 ล้านบาท ท่ามกลางกระแสข่าวลือนายกรัฐมนตรี เตรียมประกาศยุบสภา ซึ่งแพร่สะพัดในห้องค้า และยังมีแรงเก็งกำไรการส่งออกที่อาจมีลุ้นฟื้นตัว เนื่องจากอุปสงค์ในต่างประเทศ
ด้านสัดส่วนนักลงทุนวันนี้ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 577.12 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 284.91 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,535.06 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 673.02 ล้านบาท
นายรณกฤต สารินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS ยอมรับว่า ตลาดหุ้นช่วงบ่ายปรับตัวขึ้นจากแรงเก็งกำไรไปตามเหตุการณ์ทางการเมือง คงไม่มีอะไร
“แต่มูลค่าซื้อขายที่แผ่วไม่ถึง 3 หมื่นล้าน ยังไม่สนับสนุนดัชนีหุ้นให้ขึ้นแรงๆ แสดงความลังเลจากการเมืองไม่นิ่ง ขณะนี้ยังเชื่อว่าการชุมนุมทางการเมืองจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ถ้ามีเหตุการณ์ตลาดหุ้นอาจจะพลิกตกหนักได้”
สำหรับทิศทางตลาดสัปดาห์หน้า คาดการณ์ว่า หากการชุมนุมยืดเยื้อต่อเนื่อง แนะนำหุ้นเล็กยังเป็นหุ้นที่นักลงทุนสนใจเก็งกำไร ดัชนีมีแนวต้าน 1,375 จุด และแนวรับ 1,355 จุด
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยโดยรวมวันนี้เป็นภาพของการแกว่งตัวทั้งแดนบวกและลบ โดยช่วงเช้าแกว่งตัวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ แต่ช่วงบ่ายสามารถปรับตัวขึ้นมาอยู่ในแดนบวกได้ จากที่นักลงทุนบางส่วนมองแนวโน้มการเมืองอาจจะมีข้อสรุป และสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า ต้องติดตามสถานการณ์การเมืองว่าจะสามารถยุติ หรือคลี่คลายได้หรือไม่ ซึ่งหากสถานการณ์ออกมาในเชิงบวก คาดว่าดัชนีจะสามารถขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,380-1,400 จุด ขณะที่หากการชุมนุมยังมีการยืดเยื้อหรือเกิดความรุนแรงมากขึ้น ดัชนีอาจจะลงไปแถวแนวรับ 1,300 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BJCHI มูลค่าการซื้อขาย 1,794.84 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 3.75 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,631.71 ล้านบาท ปิดที่ 8.88 บาท ลดลง 0.10 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,577.10 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,364.65 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,071.60 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท ลดลง 0.50 บาท