นักลงทุนชะลอลดความเสี่ยง วอลุ่มแผ่ว วิตกการเมืองนอกสภาฯ

หุ้นไทยภาคเช้าปิดลบ 5.80 จุด นักลงทุนกังวลการเมืองใกล้ปิดเกม ชะลอความเสี่ยงก่อนสุดสัปดาห์ ส่งผลให้วอลุ่มเบาบาง นักวิเคราะห์ยอมรับการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาฯ จะพัฒนาไปอย่างเข้มข้นมากขึ้น

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (29 พ.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,353.65 จุด ลดลง 5.80 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.43% มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 10,285.34 ล้านบาท คาดนักลงทุนลดความเสี่ยง กังวลสถานการณ์การเมืองร้อนช่วงสุดสัปดาห์ ผู้ชุมนุมดาวกระจายทั่วกรุง

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่า ดัชนีหุ้นไทยซึมลงต่อเนื่อง เพราะเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ ขณะที่ความกังวลต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาจะพัฒนาไปอย่างเข้มข้นมากขึ้น ทั้งฝั่งกลุ่มต่อต้าน นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ก็ประกาศชุมนุมยืดเยื้อเพื่อหนุนรัฐบาล

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ประกาศให้ ส.ส. เข้าร่วมชุมนุมเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ลาออก ไม่ยุบสภา และไม่รับสภาประชาชน พร้อมอ้างจะขอเปิดโต๊ะเจรจากับผู้ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งฝ่ายต่อต้านคงไม่ยอมรับ ทำให้ยังไม่เห็นทางออกของการเมืองในขณะนี้

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยช่วงเช้า แกว่งตัวในกรอบแคบ คล้ายคลึงกับตลาดภูมิภาคเอเชียที่แกว่งแคบทั้งบวกและลบสลับกัน ภายหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ตลาดสหรัฐฯ และตลาด Commodity ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

ทั้งนี้ ตลาดนอกประเทศต่างยังรอปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันร อดูตัวเลขเศรษฐกิจของแต่ละตลาดกันไป ส่วนตลาดบ้านเรากำลังรอดูสถานการณ์ทางการเมืองเป็นหลัก และรอดูตัวเลขเศรษฐกิจ แต่ไม่มีนัยสำคัญมากไปกว่าการเมือง

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย คาดว่าตลาดจะแกว่งแคบหากไม่มีข่าวใหม่เข้ามา ซึ่งใน 1 สัปดาห์ข้างหน้าทางเทคนิคให้แนวต้านไว้ที่ 1,370-1,380 จุด และมีจุด Stoss loss หากต่ำกว่า 1,355 จุด พร้อมแนะนำ “ซื้อตามค่าบวก” เท่านั้น

ด้านนายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ นักกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ เตือนว่า ตลาดช่วงบ่ายต้องระวังแรงขายออกมา เพื่อลดความเสี่ยงและเกาะติดสถานการณ์การเมือง จะยกระดับการชุมนุมในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือไม่อย่างไร ซึ่งตลาดที่ปรับตัวลงแรง เป็นโอกาสซื้อ เนื่องจากช่วงเดือนธันวาคม เชื่อว่าการชุมนุมจะคลี่คลาย และแรงซื้อจากกองทุนรวม LTF และ RMF เข้ามาปลายปี รวมทั้งการทำราคาปิดสิ้นปี (Window Dressing) ประกอบกับต่างชาติได้ขายปรับพอร์ตเต็มที่แล้ว เชื่อว่าแรงซื้อต่างชาติจะเบาลง

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

BJCHI ปิดที่ 37.50 ลดลง -0.75 คิดเป็น -1.96% มูลค่าการซื้อขาย 1,119,153 บาท

TRUE ปิดที่ 8.75 ลดลง -0.15 คิดเป็น-1.69% มูลค่าการซื้อขาย 816,270 บาท

JAS ปิดที่ 7.65 ลดลง -0.05 คิดเป็น -0.65% มูลค่าการซื้อขาย 670,545 บาท

KBANK ปิดที่ 166.00 ลดลง-2.00 คิดเป็น -1.19% มูลค่าการซื้อขาย 656,468 บาท

BANPU ปิดที่ 30.75 เพิ่มขึ้น +0.75 คิดเป็น +2.50% มูลค่าการซื้อขาย 474,040 บาท