คำขอร้องนายกฯไม่ได้ช่วย หุ้นไทยปิดลบ 13 จุด วอลุ่มเทรด 3.3 หมื่นล้าน ภาพรวมพ.ย.ต่างชาติขายไปแล้ว 4.6 หมื่นล้าน ตั้งแต่ต้นปีขยับขึ้นเป็น 1.5 แสนล้านบาท เงินบาทจ่ออ่อนแตะ32.20 บาท/ดอลลาร์ โบรกฯเชื่อต่างประเทศยังขายต่อ สถานการณ์การเมืองยังกดดัน
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ (28 พ.ย.) ปิดตลาดในแดนลบ ที่ระดับ 1,359.45 จุด ลดลง 13.66 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.99% มูลค่าการซื้อขาย 33,613.59 ล้านบาท ภาพรวม ดัชนีเคลื่อนไหวไปตามทิศทางข่าวการเมือง โดยปรับลงลึกกว่า 15 จุด หลังการแถลงของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร้องขอให้ยุติการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล
ขณะที่ผู้ลงทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 393 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 765 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 461 ล้าน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 833 ล้านบาท
ภาพรวมตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. นักลงทุนต่างชาติขายสะสม 4.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนต่างชาติขายสะสมไปแล้ว 1.5 แสนล้านบาท โดยผู้ซื้อสะสมสูงสุดคือ กลุ่มสถาบัน 9 หมื่นล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป 6 หมื่นล้านบาท
ส่วนเงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.13/32.14 บาทต่อดอลลาร์ และเป็นระดับ Low สุดของวัน จากตอนเช้าที่เปิดอยู่ที่ระดับ 32.15/32.17 บาทต่อดอลลาร์ และระหว่างวันเงินบาททดสอบระดับ High ที่ระดับ 32.21 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งนักบริหารเงินมองทิศทางค่าเงินบาทวันนี้(29พ.ย.) อยู่ที่ระหว่าง 32.00-32.20 บาท/ดอลลาร์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง มองว่าเป็นแรงขายทำกำไรหลังจากที่ตลาดได้ปรับขึ้นไป 2 วันจากเทคนิคเคิลรีบาวน์ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายอยู่ และเรื่องของการเมืองยังต้องติดตามต่อไป โดยคงจะไม่เห็นการยุบสภา หลังจากที่นายกรัฐมนตรีออกมาแถลงให้ยุติการชุมนุม และหันมาคุยกันเพื่อหาแนวทางออกร่วมกัน
“วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมถือว่ามีไม่มากนัก โดยเกือบ 20% เป็นของหุ้นใหม่ BJCHI หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ของวอลุ่มตลาดโดยรวม ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ก็การเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ”
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล. เอเซียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย แม้ในช่วงเช้าดัชนีจะปรับตัวขึ้นได้โดยทำจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,379 จุด พี/อี 15 เท่า แต่ก็ถูกแรงขายทำกำไรออกมา โดยรวมคาดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นออกมา เนื่องจากการเมืองยังไม่คลี่คลาย ทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(29พ.ย.) คาดว่า หากการเมืองไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเชื่อว่าดัชนีจะอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,340 จุด และแนวต้างที่ 1,380 จุดได้ บนค่า พี/อี ที่ 14.5-15.0 เท่า
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ (28 พ.ย.) ปิดตลาดในแดนลบ ที่ระดับ 1,359.45 จุด ลดลง 13.66 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.99% มูลค่าการซื้อขาย 33,613.59 ล้านบาท ภาพรวม ดัชนีเคลื่อนไหวไปตามทิศทางข่าวการเมือง โดยปรับลงลึกกว่า 15 จุด หลังการแถลงของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร้องขอให้ยุติการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล
ขณะที่ผู้ลงทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 393 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 765 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 461 ล้าน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 833 ล้านบาท
ภาพรวมตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. นักลงทุนต่างชาติขายสะสม 4.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนต่างชาติขายสะสมไปแล้ว 1.5 แสนล้านบาท โดยผู้ซื้อสะสมสูงสุดคือ กลุ่มสถาบัน 9 หมื่นล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป 6 หมื่นล้านบาท
ส่วนเงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.13/32.14 บาทต่อดอลลาร์ และเป็นระดับ Low สุดของวัน จากตอนเช้าที่เปิดอยู่ที่ระดับ 32.15/32.17 บาทต่อดอลลาร์ และระหว่างวันเงินบาททดสอบระดับ High ที่ระดับ 32.21 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งนักบริหารเงินมองทิศทางค่าเงินบาทวันนี้(29พ.ย.) อยู่ที่ระหว่าง 32.00-32.20 บาท/ดอลลาร์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง มองว่าเป็นแรงขายทำกำไรหลังจากที่ตลาดได้ปรับขึ้นไป 2 วันจากเทคนิคเคิลรีบาวน์ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายอยู่ และเรื่องของการเมืองยังต้องติดตามต่อไป โดยคงจะไม่เห็นการยุบสภา หลังจากที่นายกรัฐมนตรีออกมาแถลงให้ยุติการชุมนุม และหันมาคุยกันเพื่อหาแนวทางออกร่วมกัน
“วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมถือว่ามีไม่มากนัก โดยเกือบ 20% เป็นของหุ้นใหม่ BJCHI หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ของวอลุ่มตลาดโดยรวม ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ก็การเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ”
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล. เอเซียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย แม้ในช่วงเช้าดัชนีจะปรับตัวขึ้นได้โดยทำจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,379 จุด พี/อี 15 เท่า แต่ก็ถูกแรงขายทำกำไรออกมา โดยรวมคาดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นออกมา เนื่องจากการเมืองยังไม่คลี่คลาย ทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(29พ.ย.) คาดว่า หากการเมืองไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเชื่อว่าดัชนีจะอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,340 จุด และแนวต้างที่ 1,380 จุดได้ บนค่า พี/อี ที่ 14.5-15.0 เท่า
