“เสี่ยปั้น” ยันการเมืองร้อนฉุดเศรษฐกิจระยะสั้น

บิ๊กกสิกรไทย “บัณฑูร ล่ำซำ” ยันสถานการณ์การเมืองกระทบเศรษฐกิจระยะสั้น ทั้งด้านลงทุน และการท่องเที่ยว พร้อมคาดการณ์จีดีพีปีนี้โตไม่ถึง 3% จากภาคส่งออกขยายตัวไม่ถึง 1%

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) กล่าวว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในทันทีอยู่แล้ว แต่เป็นผลกระทบในระยะสั้น ซึ่งจะเห็นได้จากการถอนเงินลงทุนจากตลาดหุ้น การท่องเที่ยวที่เป็นช่วงทำเงิน ก็จะมีนักท่องเที่ยวที่กังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองยกเลิกไป หรือผู้ประกอบการชะลอการลงทุนไปก่อน เพื่อรอดูสถานการณ์ เป็นต้น ขณะที่ในระยะยาวก็จะกระทบต่อศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

ปัญหาก็คือ ประเทศไทยบริหารด้วยกติกายังไง ทำไมถึงตกลงกันไม่ได้ใครมีสิทธิที่จะตัดสินหรือไม่ตัดสิน ยังหาคำตอบที่ตรงกันไม่ได้ ปัญหานี้ก็จะกลายเป็นความเสี่ยงที่ปิดไม่ลง บ้านเมืองอยู่ในกำมือของผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในเรื่องต่างๆ ผู้ใหญ่ควรทำในสิ่งที่ดี มีเหตุผล จึงถือได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ที่รักประเทศไทย ผู้ใหญ่มีอำนาจก็ต้องทำให้สมกับความเป็นผู้ใหญ่

เราคงตัดสินไม่ได้ว่าทางออกคือ ยุบสภาหรือไม่ หรือลาออก หรือไม่ลาออก แต่ที่สำคัญจะต้องมีกรอบกติกา ถ้าผู้ใหญ่พึ่งไม่ได้ คนผู้น้อยจะพึ่งอะไร ไม่ต้องคิดไปถึงจะไปจัดตั้งอะไรใหม่ ก็เพ้อฝันไป ผู้ใหญ่ต้องแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ว่ารักประเทศชาติ

ด้านภาวะเศรษกิจนั้น ในปีนี้นั้นจีดีพีอาจจะเติบโตไมถึง 3% จากภาคการส่งออกที่เติบโตได้ไม่ถึง 1% แต่ในปีหน้าน่าจะเติบโตได้ 4-5% หากสถานการณ์ทางการเมืองไม่ยืดเยื้อ ซึ่งในอัตราดังกล่าวถือว่าเป็นระดับที่รับได้ เพราะถ้าเราโตบนพื้นฐานที่ไม่แกร่ง ก็จะทำให้เกิดฟองสบู่ และถ้าในอนาตเราทำพื้นฐานให้แกร่งกว่านี้อีกก็จะเป็นเรื่องที่ดี