แบงก์กรุงศรีฯ เผยสภาพคล่องหด แบงก์แข่งชิงเงินฝากยาวถึงปีหน้า เหตุเงินไหลออก แบงก์เฉพาะกิจรัฐแย่งดูดเงิน คาด กนง.คงดอกเบี้ยรักษาสถียรภาพเศรษฐกิจ พร้อมขยายบริการหวังยกระดับเพิ่มกลุ่มมั่งคั่ง
นายกฤษณ์ จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเงินฝาก การลงทุน ประกันภัย และธนบดี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การระดมเงินฝากของธนาคารในช่วงที่ผ่านมา มีความสอดคล้องในทิศทางเดียวกับสินเชื่อ โดยสามารถเติบโตได้ 7-8% และคาดว่าสิ้นปีน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 10% ทั้งในส่วนของสินเชื่อ และเงินฝาก ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีการแข่งขันระดมเงินฝากก็จะยังมีความรุนแรงขึ้น ดังจะเห็นได้จากธนาคารพาณิชย์ยังคงมีแคมเปญต่างๆ ออกอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้สภาพคล่องในระบบลดลงส่วนหนึ่งมาจากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น การไหลออกเงินทุนจากต่างประเทศ และอีกปัจจัยที่เริ่มเข้ามามีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ได้แก่ การระดมเงินฝากจากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อนำไปใช้ในโครงการต่างๆ และในปีหน้าก็ยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องระดมเงินทุนเพิ่มอีก จึงทำให้สภาพคล่องลดลงอีกแน่นอน
“ในช่วง 9 เดือนทื่ผ่านมา รัฐบาล และหน่วยงานของภาครัฐมีการระดมเงินในตลาดตราสารไป 250,000 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าว 60% เป็นการระดมเงินทุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อนำไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าว และอื่นๆ ทำให้สภาพคล่องส่วนหนึ่งถูกดูดไป ซึ่งในส่วนของธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (L/D) ที่ 110% ถือว่าสูงกว่าระบบ แต่ก็ยังสามารถจัดบริหารได้”
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยนั้น อาจจะมีหลายฝ่ายมีความเป็นห่วง แต่ในระยะยาวแล้วถือว่ายังมีเสถียรภาพอยู่ โดยคาดว่าในปีนี้จีดีพีจะเติบโตที่ 3.3% และปี 2557 เติบโต 3.7% โดยปัจจัยแปรผันก็จะอยู่ที่การฟื้นตัวการส่งออก รวมถึงการฟื้นตัวอุปสงค์ในภาคในประเทศ และปัจจัยทางการเมือง ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเป็นการลด QE ของสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน แต่ธนาคารคาดว่าน่าจะเริ่มลด QE ได้ในช่วงปลายปีหน้า
นายกฤษณ์ กล่าวอีกว่า จากปัจจัยต่างๆ ที่ว่า จึงคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับ 2.50% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าด้วย หากภาคการส่งออกไม่หดตัวมาก และสินเชื่ออุปโภคบริโภคยังขยายตัวได้อยู่ ธปท.คงจะไม่ตัดสินใจลดดอกเบี้ย เพราะจะกระทบต่อเสถียรภาพในด้านของหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงด้วย
เร่งเสริมบริการ-ขยายฐานกลุ่มมั่งคั่ง
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับพัฒนาการทางด้านการออม และการลงทุนที่หลากหลายขึ้น ธนาคารจึงได้ออกบริการใหม่ “Plan your money” บริการให้คำแนะนำทางด้านการลงทุนของแต่ละช่วงรายได้ ช่วงวัยตามความเหมาะสม ซึ่งส่วนนี้จะให้บริการแก่ลูกค้าเงินฝากในวงกว้างที่มียอดเงินฝาก 15,000 บาทขึ้นไป จนถึง 5 ล้านบาท โดยจะเน้นให้บริการผ่านทางอิเล็กทรอกนิกส์ และ Call Center เป็นหลัก และผ่านสาขาของธนาคาร 2 แห่งในเบื้องต้น ได้แก่ สาขาสำนักพระราม 3 และสาขาพารากอน ก่อนจะขยายเป็น 15-20 สาขาภายในปีหน้านี้
บริการ “Plan your money” จะต่างกับบริการของลูกค้ากลุ่มมั่งคั่ง (Wealth) ที่มียอดเงินฝาก 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะต้องการคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงกว่าในด้านการลงทุน จึงต้องมีที่ปรึกษาการลงทุนมาช่วยบริหารจัดการ แต่กลุ่มที่ใช้บริการ “Plan your money” จะมุ่งเน้นให้คำแนะนำที่เหมาะสมแล้วนำไปปรับใช้เอง ซึ่งการที่ธนาคารให้ความสำคัญแก่ลูกค้ากลุ่มนี้ก็เพื่อต่อยอดให้ยกระดับเป็นกลุ่มมั่งคั่งในอนาคต โดยลูกค้ากลุ่มนี้มีอยู่ในสัดส่วประมาณ 7-8 แสนราย