ศูนย์วิจัยทองคำเผย ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนพฤศจิกายนฟื้นตัวจากเดือนตุลาคมอยู่ที่ระดับ 55.76 จุด สะท้อนนักลงทุนและผู้ค้าในประเทศเริ่มมีทัศนคติเชิงบวกหลังเฟดคงนโยบายคิวอี ผู้ค้าทองคาดราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเดือนพฤศจิกายนน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250 - 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ส่วนประเด็นการเมืองร้อนเชื่อไม่กระทบทองโดยตรงแต่มีผลทำบาทอ่อนกระทบทองคำในประเทศ
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment Index) ฟื้นตัวในเดือนพฤศจิกายน โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 55.76 จุด เพิ่มขึ้น 9.05 จุด หรือ 19.37% เหตกลุ่มตัวอย่างเชื่อเฟดคงคิวอีต่อถึงปีหน้าหนุนราคาทองระยะสั้น ซึ่งมุมมองดังกล่าวสอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ลงทุนและกลุ่มผู้ค้า เพราะเมื่อมองดัชนีแยกกลุ่มพบว่าเป็นเชิงบวกทั้งสองกลุ่ม ขณะปัจจัยเดือนพฤศจิกายนพบว่าตัวอย่างยังเชื่อคงคิวอียังหนุนทองโลก ด้านประเด็นการเมืองในประเทศไม่น่ากระทบต่อราคาทองคำโดยตรงแต่อาจจะส่งผลค่าเงินบาทมีทิศทางที่อ่อนแค่ได้กว่าในระดับปัจจุบันเพราะกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะสามเดือนสอดคล้องกันโดยสะท้อนทัศนคติเชิงบวก ค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 56.45 จุด เพิ่มขึ้นจากการจัดทำในเดือนตุลาคม 8.19 จุด หรือ 16.97% ส่วนคำถามว่านักลงทุนจะซื้อทองคำในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้าหรือไม่พบว่า 35.32% ของกลุ่มตัวอย่างจะซื้อทองคำในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้า 39.73% คิดว่าจะยังไม่ซื้อทองคำและ 24.95% ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่
ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย เปิดเผยบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) ที่รวบรวมตัวอย่างจากผู้ค้าส่งทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 11 ตัวอย่าง เชื่อว่า ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเดือนพฤศจิกายนโดยรวมน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250 - 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่ากรอบราคาต่ำสุดในเดือนพฤศจิกายนน่าจะอยู่ในช่วง 1,270-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่กรอบสูงสุดน่าจะอยู่ในกรอบ 1,360-1,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 96.5%) กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าราคาจะเคลื่อนไหวระหว่าง 18,500-20,700 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดกลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักระหว่าง 18,900-19,100 บาทต่อหนึ่งบาท และมีกรอบการเคลื่อนไหวสูงสุดบริเวณ 20,400-20,700 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ โดยมีประเด็นเรื่องการคงนโยบายคิวอี การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทโดยเฉพาะผลกระทบจากประเด็นการเมือง การเก็งกำไรในตลาดทองคำและความต้องการทองคำในช่วงปลายปีเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำ
นอกจากนี้ เรื่องกรอบเวลาในการชะลอมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ กลุ่มผู้ค้ามีความเห็นที่แตกต่างกัน โดยผู้ค้า 5 ท่านคาดว่า FED จะชะลอมาตรการในช่วงปลายไตรมาสแรกของปีหน้า ขณะที่ 4 ท่านคาดว่าน่าจะชะลอในช่วงไตรมาสที่สองของปีและมี 2 ท่านที่คาดกว่าจะชะลอมาตรการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 โดยให้เหตุผลว่า FED น่าจะรอการตัดสินใจเรื่องเพดานหนี้ก่อนจะพิจารณาชะลอมาตรการ QE ต่อไป