“ตราช้าง” ชี้ปัญหาการเมืองฉุดตลาดวัสดุแค่ระยะสั้น เดินหน้าเปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ “โซลาร์รูฟท็อป ตราช้าง” หวังรับนโยบายรัฐบาลรับซื้อไฟหน่วยละ 6.96 บาท นาน 25 ปี “ไม้สังเคราะห์ ตราช้าง สมาร์ทวูด รุ่น โมดิน่า” และ “หลังคาตราช้าง รุ่นเคิฟลอน” ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท จัดกิจกรรมการตลาดครบวงจร มั่นใจยอดขายกลุ่มหลังคา ฝ้า ผนัง และสมาร์ทวูดได้ตามเป้า 20,000 ล้านบาท
นายบุญส่ง ปิติสุขฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดหลังคาและอุปกรณ์ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ภายใต้แบรนด์ ตราช้าง เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดหลังคา ฝ้า ผนัง และสมาร์ทวูดมีการเติบโตแบบทรงตัวมาตั้งแต่ช่วงต้นปี จากปัจจัยลบหลายประการ เช่น หนี้ครัวเรือนของผู้บริโภค ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งล้วนทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ขณะที่ปัญหาการเมืองที่ผ่านมายังไม่ได้รับผลกระทบ แต่หลังจากนี้หากมีชุมนุมยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบต่อตลาดวัสดุก่อสร้างบ้าง แต่จะแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นผู้บริโภคจะต้องซื้อหากต้องการก่อสร้าง หรือซ่อมแซมบ้าน
ล่าสุด บริษัทเปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ “โซลาร์รูฟท็อป ตราช้าง” หลังคาที่สามารถผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ มาพร้อมกับนวัตกรรมการยึดแผงโซลาร์รูฟท็อปรูปแบบใหม่ “โซลาร์ฟิกซ์” ลิขสิทธิ์เฉพาะของตราช้าง, “ไม้สังเคราะห์ ตราช้าง สมาร์ทวูด รุ่น โมดิน่า” ไม้สังเคราะห์ดีไซน์ใหม่จากเทคโนโลยีการรีดขึ้นรูป (Extrusion Process) และ “หลังคาตราช้าง รุ่นเคิฟลอน” หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ดีไซน์รูปลอนแบบใหม่ โดดเด่นด้วยสีสันสะดุดตา ด้วยนวัตกรรมเคลือบสี 2 ชั้น โดยได้ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท ในการเปิดตัว และทำกิจกรรมการตลาด
สำหรับ “โซลาร์รูฟท็อป ตราช้าง” เป็นหลังคาที่สามารถผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถขายไฟคืนตามนโยบายของรัฐบาลได้ในราคาหน่วยละ 6.96 บาท นาน 25 ปี โดยมีขนาดตั้งแต่ 1.6-8 กิโลวัตต์ ราคาเฉลี่ยที่ 85 บาท/วัตต์ ซึ่งบ้านเรือนทั่วไปจะตั้งตั้งได้ที่เฉลี่ย 3-4 กิโลวัตต์ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3 แสนบาทรวมค่าติดตั้ง หากลูกค้าเข้าโครงการขายไฟให้แก่รัฐบาลก็จะได้เงินประมาณ 30,000 บาท/ต่อปี ซึ่งจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 9-10 ปี อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันแม้จะยังไม่มีการติดตั้งที่แพร่หลาย แต่เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ที่ค่าไฟฟ้าปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องคนจะเริ่มหันมานิยมติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อป มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ตราช้างยังได้คิดค้นนวัตกรรมการยึดแผงโซลาร์รูฟท็อปรูปแบบใหม่ “โซลาร์ฟิกซ์” ลิขสิทธิ์เฉพาะของตราช้าง ป้องกันปัญหาหลังคารั่วซึม ปลอดภัย แข็งแรง ไม่หลุดเนื่องจากแรงลม ติดตั้งง่าย พร้อมรับประกันการรั่วซึม 5 ปี นอกจากนี้ ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภค ด้วยอุปกรณ์เสริมที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถติดตั้งควบคู่กัน เพื่อใช้สำรองไฟฟ้าให้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยามฉุกเฉิน พร้อมทั้งให้บริการติดตั้งแบบครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา สำรวจ ออกแบบ ประเมินราคา ยื่นขออนุญาต
ไม้สังเคราะห์ “ตราช้าง สมาร์ทวูด รุ่น โมดิน่า” เสนอขายในราคาประมาณ 1,000 บาท/ตร.ม. มีความสวยงาม มีมิติ โดดเด่น แปลกใหม่ เนื่องจากหน้าตัดที่มีความตื้น ลึกอยู่ในแผ่นเดียว แผ่นขึ้นรูปสำเร็จจากโรงงานจึงติดตั้งได้ง่าย รวดเร็ว เพราะลดขั้นตอนในการติดเรียงไม้ทีละแผ่น ใช้ติดตั้งด้วยระบบซ่อนหัวสกรู ทำพื้นผิวเรียบสวยไม่มีรอยสกรูที่ผิวไม้ และติดตั้งได้แน่นหนา มีความแข็งแรง ทนทาน เพราะผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูงที่ผ่านกระบวนการอบไอน้ำที่แรงดัน และอุณหภูมิสูง (Autoclave) สามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายใน และภายนอก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาจากแสงแดด ฝน และปลวก นอกจากนี้ ยังสามารถทาสีทับได้ตามสไตล์ที่ต้องการ
ส่วน“หลังคา ตราช้าง รุ่นเคิฟลอน” เป็นกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์รุ่นใหม่ล่าสุด มีความโดดเด่นด้วยความสดของสี ด้วยนวัตกรรมการเคลือบสี 2 ชั้น ซึ่งเป็นสีเมทัลลิกพิเศษให้ความแวววาว ไม่ซีดลอก ผสานกับการออกแบบรูปลอนใหม่ ลอนโค้งสวย สีสดใส โดดเด่นแวววาวในทุกมิติ เนื้อกระเบื้องหนาถึง 5 มม. ทนทาน ปกป้องให้บ้านคุณเงียบ เย็น อยู่สบาย ปลอดภัยไม่มีส่วนผสมของแร่ใยหินที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ใช้เพียง 1.95 แผ่น/ตร.ม. เปิดตัวด้วย 5 สีใหม่ ได้แก่ เขียวทอแสง แดงทอแสง ฟ้าทอแสง ส้มทอแสง และม่วงทอแสง เสนอขายในราคา 84 บาท/แผ่น
