xs
xsm
sm
md
lg

C200 Edition C เพิ่มตัวเลือกความสปอร์ต-ปราดเปรียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ - เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เอาใจสาวกแบรนด์ดาวสามแฉก แนะนำยนตรกรรมหรูในตระกูล C-Class รุ่น C 200 Edition C ที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัว บ่งบอกถึงความปราดเปรียว สปอร์ต และแข็งแกร่ง กับกระจังหน้าแบบสปอร์ต เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม รวมทั้งชุดแต่ง AMG ในราคา 2.29 ล้านบาท วางจำหน่ายเฉพาะตัวแทนขายทางการเท่านั้น

คมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ C 200 Edition C นอกจากจะเป็นการเพิ่มความพิเศษของยนตรกรรมในตระกูล C-Class ให้ดูโดดเด่นมีดีไซน์สปอร์ตมากขึ้น ยังได้เสริมความเป็นตัวตนที่มีสไตล์ ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน ตั้งแต่กระจังหน้าแบบสปอร์ตสีดำเคลือบเงาเสริมโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และไฟหน้าแบบฮาโลเจน (halogen) รมดำ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรุ่น Edition C ซึ่งทำให้เพิ่มความปราดเปรียว ดุดัน และดูกระฉับกระเฉงมากขึ้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

ส่วนการตกแต่งภายในที่ใช้วัสดุคุณภาพชั้นเยี่ยม เน้นความสวยงามและรายละเอียดต่างๆ อาทิ การใช้สีตัดกันของพื้นผิวให้ดูสะดุดตา ด้วยลายอลูมิเนียมที่คอนโซลกลางและแผงประตู รวมทั้งเบาะนั่งสปอร์ตดีไซน์ใหม่หุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำเดินด้ายสีน้ำเงิน/เทา เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับระดับได้ด้วยระบบไฟฟ้า พนักพิงผู้โดยสารด้านหลังพับได้ แบบ 1/3 และ 2/3

นอกจากนั้นยังเพิ่มอรรถรสความบันเทิงภายในห้องโดยสารด้วยเครื่องเล่นวิทยุแบบ Audio 20 พร้อมเครื่องเล่น CD แบบ 6 แผ่น และระบบสำหรับเชื่อมต่อสื่อบันเทิง (media interface) ซึ่งคาดว่า Edition C ที่เป็นลิมิเต็ดรุ่นพิเศษนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและเป็นที่ชื่นชอบสำหรับลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความแตกต่าง มีสไตล์เฉพาะตัว ขณะเดียวกันต้องมีความเป็นสปอร์ตด้วย

C 200 Edition C ยังเพิ่มความสวยงามและสปอร์ตขึ้น ด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling ซึ่งประกอบไปด้วย กันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ต สัญลักษณ์ “Edition C” ด้านข้างตัวรถ พรมรองพื้นหุ้มขอบและเดินด้ายสีเทา พร้อมด้วยล้ออัลลอยลาย 5 ก้าน ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตทูโทน ดำ-บรอนซ์เงิน

ราคาขายของ C 200 Edition C อยู่ที่ 2.29 ล้านบาท มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 1,796 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์ (184 แรงม้า) ที่ 5,250 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุดที่ 270 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 4,600 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 7.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย 15.63 กม./ลิตร มาพร้อมกับฟังก์ชัน ECO Start/Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) อันทรงประสิทธิภาพ รวมทั้งยังได้เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่าง ระบบเซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) อีกด้วย

“เราได้สร้างความประทับใจและความมั่นใจให้กับลูกค้า ผ่านการบริการหลังการขาย การใส่ใจและดูแลลูกค้าที่เป็นเลิศ ด้วยการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และสิทธิพิเศษ Star Assist โปรแกรมพิเศษที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกค้าของเราจะได้รับประสบการณ์เหล่านี้โดยตรงจากผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการเท่านั้น”คมกริชกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น