บสย. เตรียมเสนอคลังแก้กฎหมายขยายขอบเขตการค้ำประกันสินเชื่อไปสู่กลุ่มนอนแบงก์ หวังขยายฐานลูกค้าช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอีที่ไม่เข้าถึงแหล่งทุน แนะตั้งกองทุนระดมจากแบงก์อุดหนุนค่าธรรมเนียมค้ำประกัน
นายเลิศชัย กิตติรัตนไพบูลย์ ประธานกรรมการบริหาร บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังศึกษาเพื่อเสนอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาแก้ไขกฎหมายจัดตั้ง บสย. ในหลายประเด็น ทั้งการกำหนดวาระของคณะกรรมการ และการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจ หรือค้ำประกันการปล่อยสินเชื่อ เพื่อให้ บสย. ขยายงานได้ตามเป้าหมายในการค้ำประสินเชื่อช่วง 5 ปีข้างหน้าให้ได้ประมาณ 660,000 ล้านบาท ค้ำประกันลูกค้า 70,000 ราย รวมถึงการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจ จากเดิมให้ขยายการค้ำประกันจากสถาบันการเงินธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) เพิ่มเติมด้วย เพราะปัจจุบันพบว่า มีผู้ประกอบการรายย่อย (เอสเอ็มอี) จำนวนมากหันไปกู้เงินกับนอนแบงก์ เช่น บริษัทอิออน ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารพาณิชย์ บสย. จึงต้องการเข้าไปช่วยลดภาระความเสี่ยงของผู้ปล่อยกู้ และช่วยให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้เข้าถึงแหล่งเงินได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง หาก บสย. เข้าไปค้ำประกันสินเชื่อกับนอนแบงก์คาดว่าจะทำให้ขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น
ส่วนกรณีบริษัทบัตรกรุงไทย ปล่อยสินเชื่อบุคคลในอัตราสูงก็ควรเข้าไปค้ำประกันได้ จึงต้องเสนอให้กระทรวงการคลัง หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการ บสย. ปัจจุบันกำหนดให้ครบวาระเพียง 1 ปีเท่านั้น นับว่าเป็นระยะเวลาสั้นเกินไป การเปลี่ยนแปลงบอร์ดบ่อยครั้งอาจมีผลต่อการดำเนินงานขององค์กร
