DTAC เผยงบ Q3 ซึมลง 4.64% เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และการลงทุนในระบบ 3G 2.1GHz ขณะที่รายได้จากการให้บริการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเข้ามาใช้ “ดีแทค ไตรเน็ต” ครบ 10 ล้าน พร้อมจ่ายปันผลปลอบใจ 1.32 บาทต่อหุ้น
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC และบริษัทย่อย รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/56 มีกำไรสุทธิ 2,747.22 ล้านบาท หรือ 1.16 บาทต่อหุ้น ลดลง 4.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,880.96 ล้านบาท หรือ 1.22 บาทต่อหุ้น
สำหรับกำไรสุทธิสำหรับงวดเท่ากับ 2.7 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.7 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และการลงทุนในระบบ 3G 2.1GHz ทั้งนี้ มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเข้ามาใช้ดีแทค ไตรเน็ต ครบ 10 ล้าน
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 56 มีกำไรสุทธิ 8,712.31 ล้านบาท หรือ 3.68 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,706.43 ล้านบาท หรือ 3.68 บาทต่อหุ้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติวันนี้ (29 ต.ค.) จ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค.56 ถึงวันที่ 30 ก.ย.56 และกำไรสะสมเป็นเงินสดในอัตรา 1.32 บาทต่อหุ้น โดยขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล (XD) ในวันที่ 7 พ.ย.56 และจ่ายปันผลในวันที่ 28
ด้านผู้บริหารมั่นใจว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ และการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น ประกอบกับการปรับลดอัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2556 ที่ผ่านมา รายได้จากการให้บริการ (ไม่รวม IC) เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 10.2 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายที่เติบโตมากกว่าร้อยละ 80 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน
ส่วนรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 32.6 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) แต่ปรับลดลงจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิฐ และการรอคอยการเปิดตัวไอโฟน 5s ในไตรมาส 4 สำหรับรายได้จากการดำเนินงานรวม 21.4 พันล้านบาท ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เนื่องมาจากการปรับลดอัตราค่าเชื่อมโยงโครงข่ายทั้งระบบ 2G และ 3G ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2556
นอกจากนี้ จุดเด่นในไตรมาสที่ 3 ยังคงเป็นรายได้จากบริการเสริมที่เติบโตต่อเนื่องถึงร้อยละ 54.5 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) และร้อยละ 10.3 จากไตรมาสก่อน (QoQ) อยู่ที่ 5.9 พันล้านบาท แรงขับเคลื่อนหลักของรายได้จากบริการเสริมยังคงเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องร้อยละ 85.8 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) และร้อยละ 14.1 จากไตรมาสก่อน (QoQ) ซึ่งเป็นผลจากความนิยมในสมาร์ทโฟน และแอปพลิเคชันสังคมออนไลน์ที่ยังคงมีสูงต่อเนื่อง และการขยายพื้นที่ให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการได้ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศของดีแทค
