xs
xsm
sm
md
lg

“PAP” ยันยอดโตทั้งปี 15% เหตุขยายตัวตามธุรกิจก่อสร้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แปซิฟิกไพพ์” ตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตประมาณ 15% จากปีก่อน เฉพาะ Q3 ปรับเพิ่มขึ้นถึง 640% เทียบ Q2 จากแรงหนุนจากยอดขายท่อเหล็กที่ยังโตต่อเนื่องกว่า 1,988 ล้านบาท

นายสมชัย เลขะพจน์พานิช ประธานกรรมการ บมจ.แปซิฟิกไพพ์ หรือ PAP กล่าวว่า บริษัทฯประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กโดยใช้ระบบผลิตแบบการเชื่อมเหล็กแผ่นโดยใช้ความต้านทานไฟฟ้า (Electric Resistance Welded: ERW)  ปัจจุบัน เป็นหนึ่งในผู้นำท่อเหล็กของประเทศ มีศักยภาพที่จะเติบโตต่อเนื่อง จากท่อเหล็กสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในงานด้านต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย  ซึ่งยอดขายของ PAP ในช่วงปี 2551-2555 เติบโตสูงถึง 21%  ซึ่งในช่วงปี 2551-2555 ซึ่งคาดยอดขาย และกำไรในปี 2556 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยประเมินยอดขายที่ประมาณ 7,766 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเฉลี่ยเติบโตปีต่อปีที่ 9% และกำไรคาดว่าจะมีกำไรสูงถึง 355 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.54 บาท) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในอัตราเฉลี่ยปีต่อปีที่ 34%  ทั้งนี้ คาดว่ากำไรไตรมาส 3 ปีนี้จะฟื้นตัวดีขึ้นเป็น 80 ล้านบาท  อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ได้ประเมินจากเงินที่ได้กำไรปีของการดำเนินธุรกิจปี 2556 เท่ากับ 0.34 บาท หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงถึง 8%  และราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ปี 2556 ต่ำเพียง 7.9 เท่า

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3 บริษัทฯ ประเมินว่าจะมีการฟื้นตัวดีขึ้นเป็น 80 ล้านบาท ในอัตรา (กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท) เพิ่มขึ้นถึง 640% จากไตรมาสก่อน และ 27% จากปีก่อน  โดยส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากยอดขายท่อเหล็กที่ยังเติบโตต่อเนื่องสู่ระดับ 1,988 ล้านบาท ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 7.2% เทียบกับไตรมาสก่อน 6.2% และ ปีก่อน 7.4%  นอกจากนี้ คาดจะมีการบวกกลับขาดทุนในออปชันอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 20 ล้านบาท ในส่วนของนโยบายการจ่ายปันผลเด่น บริษัทฯ จะประเมินจ่ายเงินปันผลกำไรปี 2556 เท่ากับ 0.34 บาท หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงถึง 8%  

อย่างไรก็ดี แนวโน้มการดำเนินงานครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตประมาณ 15% จากปีก่อน ที่ระดับ 8,500 ล้านบาท  สำหรับประมาณการบริษัทฯ ประเมินยอดขายของบริษัทฯเท่ากับ 7,766 ล้านบาท เติบโต 9% จากปีก่อน  การผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น จะหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็น 9.1% จาก 7.9% ในปีก่อน และจะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นขึ้นเป็น 355 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.54 บาท) ปรับเพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อน

โดย ณ เวลา 13.38 น. ราคาหุ้นของ บมจ.แปซิฟิกไพพ์ หรือ PAP อยู่ที่ 4.24 บาท/หุ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 0.02 บาท หรือ 0.47%
กำลังโหลดความคิดเห็น