ดีแทคเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2556 รายได้จากการให้บริการโตต่อเนื่อง ยอดขายสมาร์ทโฟนพุ่ง สวนกระแสเศรษฐกิจซบเซา
บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เผยผลประกอบการไตรมาส 4 มีกำไรสุทธิที่ 1.9 พันล้านบาท กำไรหลักที่ทรงตัวเนื่องมาจากผลบวกของรายได้บริการ ไม่รวมไอซี (ค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) ที่เพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้จะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองและการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น แต่สามารถลดต้นทุนจากส่วนแบ่งรายได้ (Regulatory Cost) ที่ลูกค้าโอนย้ายเข้ามาสู่ดีแทค ไตรเน็ตโดยมียอดลูกค้าโอนย้ายมา จนถึงสิ้นปี ถึง 12 ล้านราย มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ จากการโอนย้ายเข้ามาของลูกค้าอย่างรวดเร็วทำให้บริษัทคาดว่าจะโอนย้ายลูกค้าเกือบทั้งหมดในสิ้นปี 2557 นี้
จุดเด่นในไตรมาสที่ 4 ยังคงเป็นรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมไอซี) เพิ่มสูงขึ้น 5.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย ส่วนรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์ปรับตัวสูงขึ้น 47.6% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน
ในส่วนผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนต่อผู้ใช้บริการทั้งหมดของดีแทคเพิ่มขึ้นสู่ 32.7% ในไตรมาส 4 ของปี 2556 จากการทำตลาดดีแทคไตรเน็ต โฟน และ ราคาสมาร์ทโฟนที่ลดลงในตลาด การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนส่งผลดีให้ดีแทคในการเติบโตของรายได้ จากบริการอินเทอร์เน็ตและความต้องการของลูกค้าปัจจุบันที่มีความประสงค์โอนย้าย สู่ระบบ 3G ความถี่ 2.1GHz
ส่วนรายได้จากบริการเสริมยังคงเติบโตต่อเนื่อง ถึง 41.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และ 6% จากไตรมาสก่อน (QoQ) อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท แรงขับเคลื่อนหลักของรายได้จากบริการเสริมยังคงเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง 63.9% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนและ 7.8% จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นผลจากความนิยมในสมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ที่ยังคงมีสูงต่อเนื่อง และการขยายพื้นที่ให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการได้ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศของดีแทค
โดยEBITDA สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2556 เท่ากับ 8พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.7% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน จากการเติบโตของรายได้และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิผล EBITDA margin ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 32.1% เนื่องจากการปรับลดอัตราค่าเชื่อมโยงโครงข่าย
การที่บริษัทประสบความสำเร็จในการโอนย้ายลูกค้า มาใช้ดีแทค ไตรเน็ต ส่งผลให้รายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินลดน้อยลงเมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สินที่ มีอยู่ทางบัญชีของดีแทค และตามมาตรฐานการบัญชี บริษัทต้องมีการบันทึกส่วนต่างรายการบัญชี ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรสะสมของดีแทคในไตรมาส 4 ทำให้ บริษัทมีความจำเป็นที่จะเว้นการจ่ายเงินปันผลในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556
อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถกลับมาดำเนินนโยบายการจ่ายเงินปันผลในไตรมาส 1 ของปี 2557 ได้ตามปกติ และจากการรับรู้ผลต่างของรายได้เทียบกับมูลค่าทรัพย์สินทางบัญชี ในไตรมาส 4 ในปี 2556 จะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 เป็นต้นไป เนื่องจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทรัพย์สินจะลดน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้บริษัทคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2556
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า รายได้การให้บริการที่เติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการใช้งานโมบายล์อินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟนที่เติบโตมากขึ้น และความสำเร็จจากการจัดแคมเปญต่อเนื่องเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเครือข่ายอื่น ย้ายเข้ามาใช้ดีแทค ไตรเน็ต และแคมเปญยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการกับดีแทคตลอดมา ปัจจุบันดีแทค และ ดีแทค ไตรเน็ต มีสถานีฐานรวมกันแล้วประมาณ 20,000 สถานีฐาน ซึ่งจะครอบคลุมประชากร 80% ได้ภายในสิ้นปี 2557 และจะยังคงขยายพัฒนาสถานีฐานต่อไปสร้างความพึงพอใจในการใช้บริการให้ลูกค้าดีแทคอย่างต่อเนื่อง
Company Related Link :
<*http://www.dtac.co.th*>DTAC<#>
บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เผยผลประกอบการไตรมาส 4 มีกำไรสุทธิที่ 1.9 พันล้านบาท กำไรหลักที่ทรงตัวเนื่องมาจากผลบวกของรายได้บริการ ไม่รวมไอซี (ค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) ที่เพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้จะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองและการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น แต่สามารถลดต้นทุนจากส่วนแบ่งรายได้ (Regulatory Cost) ที่ลูกค้าโอนย้ายเข้ามาสู่ดีแทค ไตรเน็ตโดยมียอดลูกค้าโอนย้ายมา จนถึงสิ้นปี ถึง 12 ล้านราย มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ จากการโอนย้ายเข้ามาของลูกค้าอย่างรวดเร็วทำให้บริษัทคาดว่าจะโอนย้ายลูกค้าเกือบทั้งหมดในสิ้นปี 2557 นี้
จุดเด่นในไตรมาสที่ 4 ยังคงเป็นรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมไอซี) เพิ่มสูงขึ้น 5.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย ส่วนรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์ปรับตัวสูงขึ้น 47.6% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน
ในส่วนผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนต่อผู้ใช้บริการทั้งหมดของดีแทคเพิ่มขึ้นสู่ 32.7% ในไตรมาส 4 ของปี 2556 จากการทำตลาดดีแทคไตรเน็ต โฟน และ ราคาสมาร์ทโฟนที่ลดลงในตลาด การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนส่งผลดีให้ดีแทคในการเติบโตของรายได้ จากบริการอินเทอร์เน็ตและความต้องการของลูกค้าปัจจุบันที่มีความประสงค์โอนย้าย สู่ระบบ 3G ความถี่ 2.1GHz
ส่วนรายได้จากบริการเสริมยังคงเติบโตต่อเนื่อง ถึง 41.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และ 6% จากไตรมาสก่อน (QoQ) อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท แรงขับเคลื่อนหลักของรายได้จากบริการเสริมยังคงเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง 63.9% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนและ 7.8% จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นผลจากความนิยมในสมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ที่ยังคงมีสูงต่อเนื่อง และการขยายพื้นที่ให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการได้ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศของดีแทค
โดยEBITDA สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2556 เท่ากับ 8พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.7% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน จากการเติบโตของรายได้และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิผล EBITDA margin ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 32.1% เนื่องจากการปรับลดอัตราค่าเชื่อมโยงโครงข่าย
การที่บริษัทประสบความสำเร็จในการโอนย้ายลูกค้า มาใช้ดีแทค ไตรเน็ต ส่งผลให้รายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินลดน้อยลงเมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สินที่ มีอยู่ทางบัญชีของดีแทค และตามมาตรฐานการบัญชี บริษัทต้องมีการบันทึกส่วนต่างรายการบัญชี ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรสะสมของดีแทคในไตรมาส 4 ทำให้ บริษัทมีความจำเป็นที่จะเว้นการจ่ายเงินปันผลในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556
อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถกลับมาดำเนินนโยบายการจ่ายเงินปันผลในไตรมาส 1 ของปี 2557 ได้ตามปกติ และจากการรับรู้ผลต่างของรายได้เทียบกับมูลค่าทรัพย์สินทางบัญชี ในไตรมาส 4 ในปี 2556 จะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 เป็นต้นไป เนื่องจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทรัพย์สินจะลดน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้บริษัทคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2556
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า รายได้การให้บริการที่เติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการใช้งานโมบายล์อินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟนที่เติบโตมากขึ้น และความสำเร็จจากการจัดแคมเปญต่อเนื่องเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเครือข่ายอื่น ย้ายเข้ามาใช้ดีแทค ไตรเน็ต และแคมเปญยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการกับดีแทคตลอดมา ปัจจุบันดีแทค และ ดีแทค ไตรเน็ต มีสถานีฐานรวมกันแล้วประมาณ 20,000 สถานีฐาน ซึ่งจะครอบคลุมประชากร 80% ได้ภายในสิ้นปี 2557 และจะยังคงขยายพัฒนาสถานีฐานต่อไปสร้างความพึงพอใจในการใช้บริการให้ลูกค้าดีแทคอย่างต่อเนื่อง
Company Related Link :
<*http://www.dtac.co.th*>DTAC<#>