xs
xsm
sm
md
lg

FVC เฮ! เทรดวันแรกเหนือจอง 128%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักลงทุนจองหุ้น “ฟิลเตอร์ วิชั่น” เฮ! เทรดวันแรกปิด 2.74 บาท เหนือราคาจอง 1.54 บาท หรือ 128.33% ผู้บริหารแจงปัจจัยหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมี Backlog จากทั้งหน่วยงานรัฐ และเอกชน แนวโน้มหลังเข้าตลาดคาดจะมีอัตราเติบโตต่อเนื่องเพื่อรองรับแหล่งทุนจากต่างประเทศ และอนาคตจะพัฒนาศักยภาพสินค้ารูปแบบใหม่ที่หลากหลาย เตรียมลุย AEC

วันนี้ (28 ต.ค.) หุ้นของ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดที่ระดับ 3.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.30 บาท หรือประมาณ 180% จากราคา IPO ที่ 1.20 บาทหุ้น และมาปิดตลาดที่ 2.74 บาท เพิ่มขึ้น 1.54 บาท หรือ 128.33% ระหว่างวันราคาหุ้นปรับสูงสุดที่ 3.58 บาท และต่ำสุดที่ 2.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 477.45 ล้านบาท

นายวิจิตร เตชะเกษม ประธานกรรมการบริหาร FVC กล่าวว่า พอใจในราคาหุ้นที่เปิดตลาดมาในวันซื้อขายวันแรกนี้ เพราะมีนักลงทุนให้ความสนใจ และมีความเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัทฯ ว่าแนวโน้มจะมีอนาคตที่ดี ราคาหุ้นบริษัทฯ ที่เปิดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรกสูงกว่าราคาจองไว้ถึง 180% น่าจะมาจากนักลงทุนเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ ซึ่งเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 18-20% หลังจากที่บริษัทฯ ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นจากขายทั้งใน และต่างประเทศเพิ่มขึ้น และมีอัตราที่เติบโตขึ้นในปีหน้าอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งส่วนหนึ่งของเงินที่ได้จากการระดมทุนขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปขยายภาคธุรกิจในการผลิต และบริการเครื่องบำบัดน้ำ โดยนำเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO 59.20 ล้านหุ้น ในราคา 1.20 บาท/หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท และเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งมีค่า P/E ที่ 11 เท่า และให้ส่วนลด 30-40%

“เราตั้งเป้าว่าปี 2558 จะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทำให้โอกาสในการเติบโตของธุรกิจเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะไม่มีกำแพงภาษี และเรามีเป้าหมายขยายธุรกิจไปยังกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่มที่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องบำบัดน้ำ ตลอดจนบ้านพักอาศัย และกลุ่มโรงแรมทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้นตามการขยายตัวของตลาดเพื่อให้มีความหลากหลาย และเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้มากขึ้นช่วง3-5 ปีนี้”

ทั้งนี้ หลังจากที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว บริษัทวางแผนในอนาคตที่จะทำ M&A เพื่อเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังนักลงทุนที่มีความสนใจ และเตรียมที่จะขยายตลาดไปยังภูมิภาคอาเซียน กลุ่มประเทศ AEC ซึ่งเปิดรับเสรีการลงทุนอยู่มาก และตลาดมีคู่แข่งน้อย ประกอบกับสินค้าพื้นฐานที่มีความต้องการสูง ทั้งยังเป็นกลุ่มประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก และมีกำลังซื้อสูง สามารถช่วยผลักดันบริษัทให้ขยายตัวแบบก้าวกระโดดได้


กำลังโหลดความคิดเห็น