xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ คาดเฟดคง ดบ.-QE เตือนเงินทุนยังป่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเฟดยังคงดอกเบี้ยนโยบาย และวงเงินซื้อสินทรัยพ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง จากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ยังสูง เตือนแนวโน้มเงินทุนยังผันผวน แม้จะมีเงินไหลกลับระยะสั้น แต่ต้องเตรียมพร้อมรับมือในระยะต่อไป

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในการประชุม ณ วันที่ 29-30 ตุลาคม 2556 นี้ คาดว่าเฟดน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และขนาดการซื้อสินทรัพย์ไว้ที่ 85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน แม้ว่าในบันทึกการประชุมเฟดครั้งที่ผ่านมา ในวันที่ 17-18 ก.ย.2556 สะท้อนความเห็นของคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ เกี่ยวกับจังหวะ และโอกาสที่เฟดจะทำการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ลง หากพัฒนาการของเศรษฐกิจเป็นไปตามคาดการณ์ของเฟด

อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยด้านการคลังสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้หน่วยงานของภาครัฐต้องปิดตัวลงเป็นเวลา 16 วัน รวมทั้งแรงส่งของการฟื้นตัวของตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแอลง น่าจะส่งผลให้เฟดคงขนาดการซื้อสินทรัพย์ในระดับปัจจุบันต่อเนื่องไปอีกระยะ ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ

ทั้งนี้ ปัญหาทางการคลังที่ยังคงกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้าจากข้อพิพาททางการเมืองที่ยังไม่สามารถมีข้อสรุปอย่างชัดเจน รวมทั้งแรงส่งของการฟื้นตัวของตลาดแรงงานที่แผ่วลง ก็อาจส่งผลให้เฟดไม่น่าจะเร่งจังหวะในการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ในช่วงที่เศรษฐกิจยังมีความสุ่มเสี่ยงอยู่ โดยมีโอกาสที่เฟดอาจเลื่อนการปรับลดขนาดสินทรัพย์ออกไป จากเดิมที่ตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงการที่เฟดน่าจะยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อเนื่อง จนกว่าพัฒนาการของเศรษฐกิจจะมีความแข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพมากกว่านี้

สำหรับผลกระทบต่อประเทศไทย แม้ว่าในช่วงสั้นอาจจะมีเงินทุนไหลกลับเข้ามาบางส่วน จากคาดการณ์ถึงการเลื่อนจังหวะการปรับลดสินทรัพย์ของเฟดออกไป แต่คงต้องยอมรับว่า ไทยคงหลีกเลี่ยงความผันผวนของการไหลออกของเงินทุนในระยะต่อไปได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อเฟดทำการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ในช่วงข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคาดการณ์ถึงการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ของเฟดที่มีโอกาสเลื่อนจังหวะออกไปช้ากว่าที่ตลาดเคยคาดการณ์ อาจจะช่วยลดความผันผวนของกระแสเงินทุนไหลออกในระยะสั้น รวมทั้งอาจส่งผลให้มีกระแสเงินทุนบางส่วนไหลกลับประเทศไทย แต่คงต้องยอมรับว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจังหวะการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ก็จะยังเป็นปัจจัยกดดัน และคงทำให้ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่จะต้องเผชิญกับความผันผวนของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายต่อไป

นอกจากนี้ คาดว่าเมื่อเฟดได้เริ่มทำการปรับลดขนาดการซื้อพันธบัตรจริง ก็คงจะสร้างความผันผวนรอบใหญ่อีกครั้ง และคงส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี ทางการไทยมีเวลาการเตียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดมากขึ้น กอปรกับสถานะเสถียรภาพภายนอกประเทศของไทยที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ก็น่าจะช่วยป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาคเศรษฐกิจจริงของไทยได้ค่อนข้างมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น