หุ้นไทยบวกได้ต่อเนื่อง ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าเพิ่มขึ้น 15 จุด คาดเม็ดเงินเริ่มไหลกลับ ขานรับข่าว ศก.จีน มีสัญญาณเริ่มฟื้นตัว ซีเรียคลี่คลาย แนะเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์ค่าบาทอ่อน เชื่อหุ้นไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว พร้อมคาด 2 ปัจจัยหนุน ส่งออก-ลงทุนภาครัฐ ปลุกตลาดช่วงที่เหลือของปี
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (10 ก.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,399.41 จุด เพิ่มขึ้น 15.10 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.09% มูลค่าการซื้อขาย 32,199.21 ล้านบาท นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เชื่อว่า เม็ดเงินต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย และเอเชีย โดยมีปัจจัยหนุนจากภาพรวมเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ลำดับ 2 ของโลกคือ จีน มีแนวโน้มเศรษฐกิจเชิงบวกในขณะนี้
ส่วนประเด็นการโจมตีซีเรียของสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นหรือไม่ในเร็วๆ นี้ จำเป็นต้องติดตามต่อไป เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้ ซึ่งแนะนำให้เก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2556
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ซิตี้กรุ๊ป เชื่อว่า ดัชนีหุ้นไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดว่าดัชนีสิ้นปีนี้จะปรับขึ้นไปที่ 1,535 จุด หรือราคาตามมูลค่าบัญชีที่ 2.1 เท่า สำหรับปัจจัยที่จะผลักดันดัชนีให้ปรับขึ้น คือ การฟื้นตัวของการส่งออก และการเริ่มใช้จ่ายของโครงการสาธารณูปโภค
ก่อนหน้านี้ ดัชนีหุ้นไทยทรุดตัวลง 20% จากจุดสูงสุดช่วง พ.ค. เมื่อเฟดประกาศถอนคิวอี เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตลดลง และความกังวลสินเชื่อของภาคครัวเรือน รวมถึงปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ทำให้ดัชนีลดลงใกล้จุดต่ำสุดของปี 2547 ซึ่งเป็นความกังวลที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นจนเกินไป
ซิตี้กรุ๊ป ยังเชื่อว่า ตัวเลขส่งออกที่สร้างความกังวลในระยะสั้นจะฟื้นกลับมาจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว ในขณะที่ตัวเลขหนี้ครัวเรือนไม่น่ากลัวอย่างที่คิด และไม่ฉุดหุ้นธนาคาร และเงินทุนไหลออกของเงินทุนนั้น ประเทศไทยสามารถจัดการได้ด้วยการเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ย เพราะประเทศไทยมีสำรองระหว่างประเทศมากพอที่จะรับมือกับเงินทุนไหลออก โดยเชื่อว่า ปัจจัยพื้นฐานของประเทศดี ดังนั้น เรื่องลบต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นเพียงระยะสั้น