xs
xsm
sm
md
lg

เม็ดเงินนอกไหลเข้าตราสารหนี้ 3.4 หมื่นล้าน เดือน ต.ค. มั่นใจแยงกี้บอนด์ไม่กระทบบาทผันผวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สมาคมตลาดตราสารหนี้ฯ เผยเม็ดเงินทุนต่างชาติหลั่งไหลเข้าไทย 34,000 ล้านบาท ในช่วงเดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา พร้อมคาดในช่วงไตรมาส 4 จะมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาท พร้อมมองแผนระดมทุน 2 ล้านล้าน ผ่านแยงกี้บอนด์ไม่กระทบสภาพคล่องในระบบ และอัตราแลกเปลี่ยน มั่นใจแบงก์ชาติรับมือได้

นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า หลังจากที่สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงขยายเพดานการชำระหนี้ออกไปชั่วคราวจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2557 ทำให้มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของไทยเพิ่มขึ้น

โดยตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมาพบว่า มีเงินไหลเข้าลงทุนในตราสารหนี้แล้ว 34,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ตราสารหนี้ระยะยาว 14,000 ล้านบาท ตราสารหนี้ระยะสั้น 20,000 ล้านบาท และคาดว่าเงินทุนจะยังไหลเข้าต่อเนื่อง เพราะปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด มีผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต้องชะลอการลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปในปี 2557

นอกจากนี้ ยังประกอบกับญี่ปุ่นจะยังคงอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติม ทำให้คาดว่าในช่วงไตรมาส 4 จะมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาท จากที่ไหลเข้ามาแล้วตั้งแต่ต้นปี 80,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่เข้ามาซื้อตราสารหนี้ระยะยาว 70,000 ล้านบาท และระยะสั้น 10,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าส่วนใหญ่ต่างชาติลงทุนระยะยาวในไทยจึงไม่น่ากังวลหากต่างชาติจะขายตราสารหนี้ไทย และโยกเงินกลับไปสหรัฐฯ เมื่อมีการลดขนาด QE

ทั้งนี้ การที่ตราสารหนี้ไทยมีนักลงทุนสถาบันในประเทศเข้ามาลงทุนจึงสามารถสร้างความสมดุลและรองรับความผันผวนจากการขายของต่างชาติได้ ซึ่งจะแตกต่างจากตราสารหนี้ของประเทศอินโดนีเซีย ที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างแรงหลังจากที่ต่างชาติขายทำกำไร

ส่วนการที่รัฐบาลจะมีการระดมทุนเพื่อเอามาใช้ในโครงการลงทุนขนาดใหญ่นั้น เชื่อว่า สภาพคล่องมีเพียงพอ ไม่กระทบต่อระบบของธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะหากรัฐบาลจะระดมทุนในรูปของพันธบัตรเงินสกุลดอลลาร์ก็เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน และยังเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีเครื่องมือรองรับสภาพคล่องให้สมดุลได้
กำลังโหลดความคิดเห็น