“บล.ทิสโก้” คาดสหรัฐฯ ยุติใช้ “คิวอี” กลางปี 57 ประเมินดัชนีปีหน้าแตะที่ระดับ 1,650 จุด ส่วนทิศทางในปี 58 ตลาดหุ้นทั่วโลกจะตกต่ำ หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้น
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดลูกค้าส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ คาดการณ์ว่า สหรัฐฯ จะหยุดมาตรการ QE ในช่วงกลางปีหน้า โดยเชื่อว่าเฟดจะปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงครั้งแรกหลังจากการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 18 ธ.ค.ปีนี้
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า จะยังคงปรับตัวขึ้นได้มากกว่า 1,500 จุด เนื่องจากจะมีเงินบางส่วนไหลกลับเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ และนักลงทุนจะมีการเข้าซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไรก่อนการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงมีการเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มที่จ่ายปันผลมากขึ้น จากนั้นดัชนีจะปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 3 และ 4 หลังจากหยุดมาตรการ QE ซึ่งประเมินว่าดัชนีในปี 57 จะแตะระดับสูงสุดที่ระดับ 1,650 จุด
“ไตรมาส 1 ปีหน้ายังดีอยู่ถึงแม้ว่าเฟดจะมีโอกาสลด QE ครั้งแรก แต่จะมีเงินบางส่วนไหลกลับเข้ามา รวมถึงแรงซื้อหุ้นปันผล และหุ้นที่จะประกาศงบ แต่หลังจากที่เฟดหยุด QE ในช่วงกลางปีดัชนีฯ จะปรับตัวลดลงมา ซึ่งเรามองว่าดัชนีปีหน้าจะสูงสุดแตะระดับที่ 1,650 จุด” นายวิวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ ประเมินว่าในช่วงปี 2558 ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่จะเกิดภาวะตกต่ำ ภายหลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีภาวะฟื้นตัวชัดเจนในช่วงกลางปีหน้าที่มีการหยุดมาตรการ QE จะส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าสู่การลงทุนภาคอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีการลงทุนในตลาดหุ้น ทำให้ตลาดเกิดใหม่ขาดสภาพคล่อง
นอกจากนี้ ประเมินว่าสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2558 ต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายปี โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 1.25% ในปลายปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้เงินจากตลาดทุนไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ผลตอบแทนจากตลาดทุนปรับตัวลดลง
“ปี 58 เรามองว่าหุ้นทั่วโลกจะไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากสหรัฐฯ รวมถึงยุโรปจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน เงินจากตลาดทุนจะไหลเข้าสู่การลงทุนที่แท้จริงในภาคอุตสาหกรรมมากกว่าการลงทุนในหุ้น และทำให้ดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าผลตอบแทนจากหุ้นจะลดน้อยลง ทำให้เงินจะไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้เพิ่มมากขึ้น” นายวิวัฒน์กล่าว
