“สหยูเนี่ยน” ขายหุ้นที่ถือใน Qujing-Union ประเทศจีนทั้่งหมดที่ถืออยู่ 50% มูลค่าประมาณ 181.08 ล้านบาท เตรียมเจรจาโอนหุ้นภายใน พ.ย. 56 นี้ แจงการขายหุ้นไม่กระทบการดำเนินงาน เพราะเคยรับรู้ผลขาดทุนตามวิธีส่วนได้เสียในงบการเงินรวมไว้แล้วประมาณ 408 ล้านบาท และไม่ใช่รายการเกี่ยวโยงกัน
น.ส.ดาลัดย์ ทรัพย์ทวีชัยกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) หรือ SUC แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2556 วันที่ 24 ตุลาคม 2556 แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ และบริษัทย่อยชื่อ Saha - Union Investment (China) Co., Ltd. (SU-SHA) ซึ่งบริษัทฯถือหุ้น 100% ได้มีเงินลงทุนใน Yunnan Energy Qujing - Union Power Co., Ltd. (Qujing-Union) ซึ่งดำเนินกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าในมณฑลยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในสัดส่วน 45.2% และ 4.8% ตามลำดับ รวมเป็นเงินลงทุนของฝ่ายไทย 50% ของทุนจดทะเบียนของบริษัทดังกล่าว หรือคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 509.69 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา Qujing-Union มีผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่องมาตลอด
อย่างไรก็ดี ทางผู้บริหารของ Qujing-Union ได้พยายามแก้ไขสถานการณ์แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนกระทั่งเมื่อปี 2554 คณะกรรมการได้มีมติให้หยุดการดำเนินกิจการ เนื่องจากขาดสภาพคล่อง ผู้ถือหุ้นไม่ลงทุนเพิ่มเพราะต้องการหยุดความเสียหาย หลังจากหยุดดำเนินกิจการ ผู้ถือหุ้นได้พยายามหาช่องทางขายโรงงานดังกล่าว รวมทั้งมีการประเมินราคาทรัพย์สิน เพื่อใช้เป็น
ข้อมูลอ้างอิงในการเจรจาต่อรองนับตั้งแต่หยุดดำเนินกิจการในกลางปี 2554 ได้มีความพยายามที่จะหาผู้มาซื้อทรัพย์สินมาโดยตลอด และผู้ถือหุ้นเพิ่งจะสามารถหาผู้ซื้อโรงงานดังกล่าวได้ โดยเป็นนิติบุคคลในมณฑลยูนนาน ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัท โดยตกลงที่จะโอนขายหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อยตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 50% มีราคาขายรวมเป็นจำนวนเงิน RMB 36 ล้าน หรือประมาณ 181.08 ล้านบาท
โดยได้เจรจาตกลงจะโอนหุ้นที่ลงทุนดังกล่าวภายในประมาณสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2556 ตามราคาข้างต้นรายการดังกล่าวไม่กระทบให้เกิดผลขาดทุนต่อผลการดำเนินงานในงวดปีปัจจุบัน เนื่องจากเคยรับรู้ขาดทุนตามวิธีส่วนได้เสียในงบการเงินรวมไว้แล้วประมาณ 408 ล้าบาท บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูล เนื่องจากมีการขายเงินลงทุนที่ลงทุนในนิติบุคคลอื่นเกินร้อยละ 10
ทั้งนี้ รายการดังกล่าวไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน รวมทั้งขนาดรายการไม่เข้าเกณฑ์ที่จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การได้มา หรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน2. รับทราบการลงทุนของบริษัท คอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน จำกัด (CU) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่บริษัทฯลงทุนสัดส่วนร้อยละ 97.73 จะมีการลงทุนใหม่ในบริษัท โซลดิฟ จำกัด (SD) จำนวน 2 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียนของ SD ส่วนอีกร้อยละ 60 เป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ SD ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัทฯ
สำหรับบริษัท โซลดิฟ จำกัด (SD) ดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทพัฒนา และจำหน่าย Solution และ Software เพื่อให้มีการขยายงานด้านเทคโนโลยีของซอฟต์แวร์มากขึ้น และรองรับการเจริญเติบโต จึงหาผู้ร่วมทุนโดยจะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก จำนวน 2 ล้านบาท และให้ CU เป็นผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดนี้ หลังจาก CU เป็นผู้ร่วมทุน SD จะมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยมีจำนวนกรรมการของบริษัทตามสัดส่วนการลงทุนการที่ CU ลงทุนในบริษัทดังกล่าว จะเป็นการเสริมธุรกิจของ CU ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มของบริษัทฯ ให้มีช่องทางการขยายรายได้เพิ่มขึ้น
รายการดังกล่าวจะเกิดขึ้นประมาณเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน 2556 บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลเนื่องจากบริษัทย่อยลงทุนในบริษัทอื่นมากกว่าร้อยละ 10 ทั้งนี้ ขนาดของรายการข้างต้น ไม่เข้าหลักเกณฑ์การได้มา หรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน และไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน บริษัทฯ จึงไม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ หรือรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน
น.ส.ดาลัดย์ ทรัพย์ทวีชัยกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) หรือ SUC แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2556 วันที่ 24 ตุลาคม 2556 แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ และบริษัทย่อยชื่อ Saha - Union Investment (China) Co., Ltd. (SU-SHA) ซึ่งบริษัทฯถือหุ้น 100% ได้มีเงินลงทุนใน Yunnan Energy Qujing - Union Power Co., Ltd. (Qujing-Union) ซึ่งดำเนินกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าในมณฑลยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในสัดส่วน 45.2% และ 4.8% ตามลำดับ รวมเป็นเงินลงทุนของฝ่ายไทย 50% ของทุนจดทะเบียนของบริษัทดังกล่าว หรือคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 509.69 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา Qujing-Union มีผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่องมาตลอด
อย่างไรก็ดี ทางผู้บริหารของ Qujing-Union ได้พยายามแก้ไขสถานการณ์แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนกระทั่งเมื่อปี 2554 คณะกรรมการได้มีมติให้หยุดการดำเนินกิจการ เนื่องจากขาดสภาพคล่อง ผู้ถือหุ้นไม่ลงทุนเพิ่มเพราะต้องการหยุดความเสียหาย หลังจากหยุดดำเนินกิจการ ผู้ถือหุ้นได้พยายามหาช่องทางขายโรงงานดังกล่าว รวมทั้งมีการประเมินราคาทรัพย์สิน เพื่อใช้เป็น
ข้อมูลอ้างอิงในการเจรจาต่อรองนับตั้งแต่หยุดดำเนินกิจการในกลางปี 2554 ได้มีความพยายามที่จะหาผู้มาซื้อทรัพย์สินมาโดยตลอด และผู้ถือหุ้นเพิ่งจะสามารถหาผู้ซื้อโรงงานดังกล่าวได้ โดยเป็นนิติบุคคลในมณฑลยูนนาน ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัท โดยตกลงที่จะโอนขายหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อยตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 50% มีราคาขายรวมเป็นจำนวนเงิน RMB 36 ล้าน หรือประมาณ 181.08 ล้านบาท
โดยได้เจรจาตกลงจะโอนหุ้นที่ลงทุนดังกล่าวภายในประมาณสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2556 ตามราคาข้างต้นรายการดังกล่าวไม่กระทบให้เกิดผลขาดทุนต่อผลการดำเนินงานในงวดปีปัจจุบัน เนื่องจากเคยรับรู้ขาดทุนตามวิธีส่วนได้เสียในงบการเงินรวมไว้แล้วประมาณ 408 ล้าบาท บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูล เนื่องจากมีการขายเงินลงทุนที่ลงทุนในนิติบุคคลอื่นเกินร้อยละ 10
ทั้งนี้ รายการดังกล่าวไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน รวมทั้งขนาดรายการไม่เข้าเกณฑ์ที่จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การได้มา หรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน2. รับทราบการลงทุนของบริษัท คอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน จำกัด (CU) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่บริษัทฯลงทุนสัดส่วนร้อยละ 97.73 จะมีการลงทุนใหม่ในบริษัท โซลดิฟ จำกัด (SD) จำนวน 2 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียนของ SD ส่วนอีกร้อยละ 60 เป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ SD ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัทฯ
สำหรับบริษัท โซลดิฟ จำกัด (SD) ดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทพัฒนา และจำหน่าย Solution และ Software เพื่อให้มีการขยายงานด้านเทคโนโลยีของซอฟต์แวร์มากขึ้น และรองรับการเจริญเติบโต จึงหาผู้ร่วมทุนโดยจะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก จำนวน 2 ล้านบาท และให้ CU เป็นผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดนี้ หลังจาก CU เป็นผู้ร่วมทุน SD จะมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยมีจำนวนกรรมการของบริษัทตามสัดส่วนการลงทุนการที่ CU ลงทุนในบริษัทดังกล่าว จะเป็นการเสริมธุรกิจของ CU ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มของบริษัทฯ ให้มีช่องทางการขยายรายได้เพิ่มขึ้น
รายการดังกล่าวจะเกิดขึ้นประมาณเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน 2556 บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลเนื่องจากบริษัทย่อยลงทุนในบริษัทอื่นมากกว่าร้อยละ 10 ทั้งนี้ ขนาดของรายการข้างต้น ไม่เข้าหลักเกณฑ์การได้มา หรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน และไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน บริษัทฯ จึงไม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ หรือรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน
