บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี หรือ AGE ฟอร์มดีรับออเดอร์จากจีนส่งท้ายปี 56 กว่า 300,000 ตัน ส่งผลยอดขายในต่างประเทศทั้งปีแตะระดับ 1,000,000 ตัน เพิ่มขึ้นกว่า 40% จากปีก่อนที่มียอดขายต่างประเทศเพียง 550,000 ตัน เหตุความต้องการในประเทศจีนยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อานิสงส์การใช้พลังงานในจีนขยายตัวเพิ่ม ด้านนายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ AGE ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 5,000-5,500 ล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อจากประเทศจีนเข้ามาแล้วกว่า 300,000 ตัน ส่งผลให้ประมาณการยอดขายในต่างประเทศปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 1,000,000 ตัน เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดคำสั่งซื้อในต่างประเทศอยู่ที่ 550,000 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 40% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากความต้องการใช้ถ่านหินในประเทศจีน ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอัตราการใช้พลังงานที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยจะเห็นได้จากการขยายตัวของการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ประกอบกับในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี เป็นช่วงไฮซีซัน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ประมาณยอดขายของปีนี้ทั้งปีอยู่ที่ระดับ 2,400,000-2,500,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่บริษัทฯ มีปริมาณการขายที่ 1,700,000 ตัน
“ยอดขายในต่างประเทศปีนี้ถือว่าเป็นไปตามที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ โดยจะเห็นได้จากยอดออเดอร์ที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากประเทศจีน ส่งผลให้ AGE มีปริมาณยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้นกว่า 40% หรือประมาณ 1,000,000 ตัน จากปีก่อนที่มียอดขายเพียง 550,000 ตัน และเนื่องจากประเทศอินเดียซึ่งได้รับผลกระทบในเรื่องค่าเงินที่ผันผวนอย่างมาก จึงทำให้มีการชะลอการนำเข้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าสถานการณ์น่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในปีหน้า เนื่องจากความต้องการใช้ถ่านหินในอินเดียยังมีอยู่มาก จากการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายพนมกล่าว
สำหรับประมาณการรายได้ของบริษัทฯในปีนี้ บริษัทฯ ได้มีการประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ไว้ที่ระดับ 5,000-5,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ภายในประเทศประมาณ 70% และต่างประเทศประมาณ 30% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 4,400 ล้านบาท พร้อมกันนี้ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี ยังได้กล่าวอีกว่า บริษัทฯ กำลังดำเนินกลยุทธ์เรื่องลดต้นทุน และแผนทางการตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นผลในปีหน้าเพื่อให้สอดรับกับภาวะอุตสาหกรรมถ่านหินที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากมองว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวมีการแข่งขันที่สูงมาก ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าแผนกลยุทธ์ที่บริษัทฯ ได้เตรียมไว้จะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างแน่นอน