CCP ยันน้ำท่วมไม่กระทบ ตรงข้ามคนซื้อคอนกรีตเพิ่มทั้งป้องกันน้ำ-ซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม มั่นใจทั้งปีรายได้เกิน 3,000 ล้านบาท ระบุหากงานโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านชัดเจน หนุนคอนกรีตโตแน่
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคตะวันออกหลายจังหวัด ซึ่งรวมบางพื้นที่ใน จ.ชลบุรี แต่พื้นที่ที่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ และโรงงานผลิตคอนกรีตสำเร็จรูป 4 แห่ง และอีก 18 แพลนต์นั้น ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด แต่ในทางตรงกันข้าม จะเป็นผลดีต่อการสั่งสินค้าทั้งเรื่องการป้องกันอุทกภัยและซ่อมแซมหลังเหตุการณ์น้ำท่วม แต่ในส่วนของดีลเลอร์ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมอาจจะไม่สามารถเข้าไปส่งสินค้าได้ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ยอดขายบริษัทฯ ลดลงมาประมาณ 3-4% ซึ่งจะส่งผลในระยะสั้นเฉพาะในเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น ซึ่งบริษัทจะไม่มีการปรับเป้ารายได้ลงแต่อย่างใด
โดยปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตรายได้ไม่ต่ำกว่า 15-20% หรือมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยมาจากการขยายตัวของภาคก่อสร้างทั้งภาครัฐ และเอกชน ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ หรือ Backlog อยู่ที่ประมาณ 2,100 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ 60% และงานภาคเอกชน 40% ทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ จำนวน 400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงไตรมาส 2 ปี 2557 ขณะที่กำไรจะมีการเติบโตที่ค่อนข้างก้าวกระโดดจากการรับรู้รายได้รายการพิเศษ
ปัจจุบัน บริษัทได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตคอนกรีตบางประเภทแล้ว เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้นของกลุ่มลูกค้า โดยการเพิ่มกำลังผลิตดังกล่าวเป็นผลจากการปรับปรุงพื้นที่โรงงาน และเครื่องจักรเดิมให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) ที่ใช้ในการก่อสร้างอาคาร ที่อยู่อาศัย ภายในช่วงต้นปี 2557 เพื่อรองรับความต้องการของตลาดวัสดุก่อสร้างทดแทนแรงงาน ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากโครงการก่อสร้างต่างๆ เนื่องจากเป็นวัสดุทดแทนแรงงานที่จะเข้ามามีส่วนช่วยทั้งในเรื่องของต้นทุน และระยะเวลาในการก่อสร้าง
ส่วนแนวโน้มธุรกิจผลิต และจำหน่ายคอนกรีตในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ยังมีแนวโน้มขยายตัวดี เป็นผลจากความต้องการคอนกรีต วัสดุก่อสร้าง ในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในเขตกรุงเทพฯ และภูมิภาค แม้ปัจจุบันหลายฝ่ายจะมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ปัจจัยดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากโครงการที่มีการเปิดตัวไปในช่วงก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และมีความจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างต่อเนื่องจนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จ
ในปี 57 บริษัทคาดว่าธุรกิจคอนกรีตยังมีการขยายตัวที่ดี จากการก่อสร้างโครงการประเภทต่างๆ ทั้งในส่วนของงานโครงการภาคเอกชน และโครงการภาครัฐที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน และหากโครงการลงทุนภาครัฐในส่วนของงานโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท มีความชัดเจน จะยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้าง
ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้ารับงานคอนกรีตทุกรูปแบบ ตลอดจนเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของโครงการต่างๆ ด้วยเช่นกัน ส่วนงบประมาณการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ก็มีผลประโยชน์ต่อบริษัทฯ โดยตรง เพราะมีศักยภาพพอที่จะได้รับงานด้านท่อขนาดใหญ่จากภาครัฐค่อนข้างสูง