บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี ฟุ้งธุรกิจก่อสร้างขยายตัวต่อเนื่องตามตลาดอสังหาฯ เผย Backlog 2.1 พันล้านบาท ต่อเนื่องยาวทยอยรับรู้รายได้ถึงกลางปีหน้า คาดรายไดเติบโตอย่างน้อย 15-20% ครึ่งปีแรกฟันกำไรกว่า 81.35 ล้านบาท หรือ 49.12%
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี หรือ CCP กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากความต้องการคอนกรีตทุกรูปแบบ ทั้งคอนกรีตผสมเสร็จ คอนกรีตสำเร็จรูป ตลอดจนวัสดุก่อสร้างอยู่ในระดับสูง ตามการขยายตัวของการก่อสร้างโครงการประเภทต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร และหัวเมืองขนาดใหญ่ในเขตภูมิภาค
ทั้งนี้ การขยายตัวของงานก่อสร้างดังกล่าว ส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากทำให้มีโอกาสในการเข้ารับงานใหม่ทั้งในส่วนของงานภาครัฐ และเอกชน ซึ่งบริษัทมีแผนเข้าเสนองานเพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) รวมทั้งขยายฐานลูกค้าออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายรักษาระดับมูลค่า Backlog ให้อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 2.1 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ 50% และงานภาคเอกชน 50% ทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้จำนวน 400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงไตรมาส 2 ปี 2557
“ธุรกิจคอนกรีตรวมไปถึงวัสดุก่อสร้างถือว่ายังอยู่ในช่วงขาขึ้น มีความต้องการในตลาดค่อนข้างสูง และคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ไปอีกอย่างน้อย 3-5 ปี เนื่องจากในอนาคตภาครัฐยังมีแผนการลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์จำนวนมาก เช่น รถไฟฟ้าสายต่างๆ การก่อสร้างขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 การพัฒนาระบบรางทั่วประเทศ ฯลฯ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคเอกชนมีการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นตามเช่นกัน ปัจจัยเหล่านี้เป็นโอกาสที่ดีในการเติบโตของ CCP คาดว่ารายได้รวมของบริษัทในปีนี้จะมีการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างน้อย 15-20% หรือมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน”
สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของบริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,323.28 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจำนวน 119.06 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,204.22 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 81.35 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจำนวน 26.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 49.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 54.55 ล้านบาท
ในขณะที่ไตรมาส 2 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 640.72 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น จำนวน 15.06 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 625.66 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 40.23 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น จำนวน 12.81 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 46.71%จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27.42 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตจากการเพิ่มขึ้นของรายได้โครงการภาครัฐและเอกชน มีการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยอยู่ที่ 15.9% และบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขาย และการบริหาร รวมทั้งต้นทุนทางการเงินลดลง