รพ.จุฬารัตน์ เทรดวันแรกเหนือจอง ปิดภาคเช้าที่ 9.15 บาท สูงกว่าราคาจอง 2.85 บาท หรือ 45.24% ที่ปรึกษาทางการเงินมั่นใจพื้นฐานแกร่งดันราคาเหนือจอง ขณะที่ผลงานไตรมาสแรกกำไรสุทธิ 90 ล้านบาท
บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ (16 พ.ค.) เปิดราคาซื้อขายที่หุ้นละ 10.00 บาท สูงกว่าราคาเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป (ราคาจอง) ที่หุ้นละ 6.30 บาท ก่อนที่จะมีนักลงทุนทยอยขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเล็กน้อย และปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ราคาหุ้นละ 9.15 บาท สูงกว่าราคาจอง 2.85 บาท หรือ 45.24% มูลค่าการซื้อขาย 1,363.86 ล้านบาท
นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG เปิดเผยว่า ราคาหุ้น CHG สูงกว่าราคาจองซื้อ 6.30 บาท เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีของบริษัทฯ และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ประกอบกับโอกาสในการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้ง ปัจจัยจากการเข้าจดทะเบียนในช่วงภาวะตลาดขาขึ้น โดยดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิน 1,600 จุด และผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์มีผลประกอบการโดดเด่นอยู่ในความสนใจของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ยอดจองซื้อไอพีโอที่ล้นเข้ามาซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักลงทุน
ทั้งนี้ กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ มีช่องทางในการขยายตัวอีกมาก เนื่องจากปัจจัยที่ตั้งของกลุ่มโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และนิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง ประกอบกับการเตรียมตัวเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ทำให้โรงพยาบาลต้องการที่จะขยายตัวและรองรับการขยายตัวดังกล่าว
ด้านนายแพทย์กำพล พลัสสินทร์ ประธานกรรมการ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับราคาตลาดที่ราคาสูงกว่าราคาไอพีโอที่ 6.30 บาทนั้น บริษัทฯ มีความยินดีที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากนักลงทุน ที่ให้ความสนใจและไว้วางใจในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฯ ในฐานะผู้บริหารก็พยายามรักษาผลการดำเนินงานให้เติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50%
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากไอพีโอ จะนำมาเพิ่มศักยภาพในการให้บริการทางการแพทย์และเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มจำนวนเตียงประมาณ 150 เตียง ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 เทพารักษ์ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 กิ่งแก้ว และ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 บางปะกง และรองรับการเพิ่มศูนย์การให้บริการแพทย์เฉพาะทาง เช่น ศูนย์เฉพาะทางด้านมะเร็งเต้านม ทางเดินอาหารและคลินิกเด็กและพัฒนาการ เป็นต้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ กำไรสุทธิ 90.25 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.10 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 52.85 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.06 บาท