บมจ. อีเอ็มซี จับมือพันธมิตร SANKEN ตั้งบริษัทลูกลุยงานระบบคลีนรูม และ เทคโนโลยีสูง เผยวางแผนเตรียมขยายการลงทุนในพม่าต่อ เหตุมีศักษภาพโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าอุตฯก่อสร้างปีหน้าโตกว่า 20%
นายชนะชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อีเอ็มซี หรือ EMC กล่าวว่า บริษัทฯได้ร่วมลงทุนในการก่อตั้งบริษัทจดทะเบียนร่วมระหว่าง SENKEN SETSUBI KOGYO CO.,LTD หรือ SENKEN จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการวางระบบคลีนรูมในตัวอาคาร โรงพยาบาล ท่าอากาศยานและ โรงงานผลิตยาและโรงงานผลิตอาหารขยาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็น SANKEN-EMC CO.,LTD โดยใช้ทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท ซึ่ง SANKEN ถือสัดส่วนหุ้น 49% และ EMC ถือหุ้นในอัตราสัดส่วน 48% ส่วนที่เหลือจะเป็นของนักลงทุนในประเทศ
โดยวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในครั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดอสังหาฯที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น ทั้งในประเทศ และในกลุ่ม AEC ซึ่ง SANKEN มีความได้เปรียบในส่วนฐานลูกค้าที่มีมากในประเทศ และมีความเชี่ยวชาญในส่วนงานที่มีความละเอียดและสลับซับซ้อนของเทคโนโลยีสูง โดยเฉพาะในอาคารที่เฝ้าระวังการปลอดเชื้อเช่น โรงพยาบาล ท่าอากาศยาน และ เทคโนโลยีอาคารสมัยใหม่ที่ประหยัดพลังงาน
ทั้งนี้หลังจากร่วมทุนในการจัดตั้งบริษัทแล้ว คาดว่าจะมีรายได้ในปีแรกกว่า 320 ล้านบาท จากการปรับปรุงงานอาคารของหน่วยงานรัฐ เช่น ท่าอากาศสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานอื่นในทุกจังหวัด ตลอดจนถึงหน่วยงานราชการขนาดใหญ่ ซึ่งจะรับรู้ในปีหน้า โดยหลังจากจดทะเบียนเสร็จเรียบร้อยภายใน 1-2 เดือนข้างหน้าจะสามารถพร้อมรับงานได้ทันที ซึ่งในไตรมาสที่ 4 ของปีถือเป็นช่วงที่ดีของธุรกิจก่อสร้างที่จะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้น รองรับกระแสนโยบายโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน ที่จะกระจายตัวไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ โดยบริษัทตั้งเป้าเติบโตในปีหน้าของธุรกิจก่อสร้างจะสูงถึง 20% ภายหลังจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ โดยเฉพาะในส่วนของระบบคมนาคมและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึงนโยบายจากภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางและผู้นำในกลุ่มเออีซี ทั้งในเรื่องของธุรกิจการลงทุน รวมถึงการวางประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางด้านสุขภาพของภูมิภาค ซึ่งจะทำให้ความต้องการการก่อสร้างและพัฒนาระบบต่างๆเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯได้มองการลงทุนในประเทศพม่าเป็นแห่งแรก ของกลุ่มประเทศ AEC เนื่องจากยังมีอัตราความต้องการพัฒนาที่รอการเติบโตอยู่มาก โดยมีพื้นที่ทำเลที่ดี มีท่าเรือน้ำลึกสำหรับภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่จะขยายตัวต่อไปในอนาคต
"ปัจจุบันเหลือเพียงขั้นตอนเอกสารเท่านั้น ซึ่งหลังจดทะเบียนเสร็จเราจะสามารถรับงานได้ทันที ซึ่งงานที่บริษัทลูกจะรับส่วนใหญ่จะเป็นงานเทคโนโลยีสูง ซึ่งงานเกี่ยวกับระบบโรงพยาบาลและอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งงานในส่วนนี้จะมีกำไรสูงกว่างานปกติถึง 2 เท่า ซึ่งภาพรวมธุรกิจก่อสร้างในปีหน้าถือว่าดีมาก เนื่องจากภูมิศาสตร์ของประเทศจะทำให้เราเป็นศูนย์กลางและผู้นำในกลุ่มเออีซี ได้ ปีหน้าถือเป็นปีทองและโอกาสที่สำคัญของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยอีกปีหนึ่ง"
สำหรับงานในมือของอีเอ็มซีขณะนี้มีอยู่ประมาณ 2 พันล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ในปีนี้บางส่วนและจะรับรู้เป็นส่วนใหญ่ในปีหน้า นอกจากนั้น บริษัทฯยังได้เข้าประมูลงานก่อสร้างอีก 4-5 งาน รวมถึงงานลงทุนในน้ำประปาที่มีต้นทุนต่ำแต่ทำสามารถกำไรได้ที่สูงโดยผลิตขายให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม และ ธุรกิจลิฟท์โดยสารภายในอาคาร ตลอดจนถึงงานด้านท่อลำเลียงปิโตรเคมี ซึ่งอยู่ในช่วงเจรจา คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเร็วๆนี้ โดยมูลค่ารวมกว่า 2-2.5 พันล้านบาท ซึ่งงานบางส่วนจะได้รับคำตอบในช่วงปลายปีนี้