“แม็คกรุ๊ป” จับมือ “ไทม์ เดคโค” ต่อยอดธุรกิจประเภทไลฟ์สไตล์คาดเพิ่มรายได้ถึงปีละ 500 ลบ. เผยอนาคตเตรียมคุยไว้อีก 2 ดีล คาดจะได้ข้อสรุปต้นปีหน้า แย้ม 9 เดือนแรกปีนี้ฟันรายได้แล้วกว่า 1,800 ลบ.คาด Q4 ได้อีกพันล้าน
น.ส.สุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป หรือ MC กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เจรจาการร่วมทุนกันระหว่างบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกาชั้นนำกว่า 20 แบรนด์ โดยจะนำสินค้าไปวางจำหน่ายในจุดจำหน่ายของ MC ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดี และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ในปีหน้าจะเติบโตอย่างน้อย 20% จากปีนี้ หลังจากที่ได้มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้มั่นใจว่าการขยายจุดจำหน่ายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 80 แห่ง ส่วนปีหน้าตั้งเป้าจะขยายจุดจำหน่ายอีก 100 แห่งทั่วประเทศไทย จะเกิดประโยชน์ที่ลงตัวสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย โดยคาดว่าหลังจากร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจแล้ว บริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น จำกัด จะสามารถสร้างรายได้กว่า 500 ล้านบาทต่อปี ให้แก่บริษัทฯ ซึ่งปกติไทม์ เดคโคฯมีอัตราการเติบโตของรายได้ระดับปีละ 10% ซึ่งยังไม่รวมกับประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นร่วมกันในการร่วมทุนครั้งนี้
“ไทม์ เดคโคฯคงจะเริ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯอย่างชัดเจนตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งคาดว่า ไทม์ เดคโคฯ จะมีรายได้ราวมากกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งหลังจากการร่วมทุนเชื่อว่าการเติบโตของทั้ง 2 บริษัทจะเป็นไปในทิศทางที่ดี และมีศักยภาพ โดยมองว่า ไทม์ เดคโคฯ จะมีลักษณะการเติบโตเหมือน MC ในช่วงเริ่มต้น จากรายได้ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นไปเป็น 1,000 ล้านบาท และ 2,000-3,000 ล้านบาทในปีถัดไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีดีลที่อยู่ระหว่างพูดคุยอีก 1-2 ราย โดยอยู่ในระหว่างรอความชัดเจนคาดว่าจะสรุปผลได้ในไตรมาสที่ 1 ปีหน้า โดยจะยังเป็นการหาพันธมิตรควบรวมกับกลุ่มธุรกิจประเภทไลฟ์สไตล์ เพื่อช่วยหนุนศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ส่วนเงินลงทุนนั้นก็ยังอยู่ในวงเงินสำหรับการร่วมทุนที่ 1 พันล้านบาท จากการระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งตอนนี้หลังจากที่ได้เข้าลงทุนไทม์ เดคโคฯ ไปแล้ว 200 ล้านบาท ก็จะเหลือเงินให้ใช้สำหรับดีลควบรวมต่างๆอีก 800 ล้านบาท”
ทั้งนี้ หลังจากที่ปีนี้บริษัทฯ ได้ให้บริษัทลุคบาลานซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ MC ถือหุ้น 100% เข้าลงทุนในบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น จำกัด หนึ่งในผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ดังชั้นนำจากทั่วโลก ด้วยมูลค่าการลงทุน 200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 51% อย่างไรก็ดี บริษัทฯ คาดรายได้ปีนี้คงจะโตไม่ถึงเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้มากกว่า 20% จากปี 2555 ที่มีรายได้ 2,564 ล้านบาท เนื่องจากภาวะการบริโภคในประเทศที่ชะลอตัว และพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคาดหวังว่าจะทำรายได้ให้อยู่ระดับเติบโต 20% จากปีก่อน โดยเชื่อว่ารายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ จะเข้ามาช่วยสนับสนุนรายได้ทั้งปีให้เติบโตในระดับดังกล่าว เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ
“ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จะโตมากกว่า 20% แต่ตอนนี้คาดว่าคงไม่ถึงระดับที่วางไว้เดิม เพราะการบริโภคชะลอตัวลงมาก โดย 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ที่เป็นไฮซีซันของธุรกิจคาดว่าจะมีรายได้ถึง 1 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ทั้งปีเติบโตประมาณ 20% จากปีก่อน ทั้งนี้ แม้รายได้จะมีการปรับลดลงจากเป้าหมายเดิม แต่ส่วนของกำไรสุทธิยังคงมั่นใจว่าจะโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่ทำได้ราว 600 ล้านบาท เนื่องจากมีการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น”