xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดกังวลปัจจัยลบในสหรัฐฯ หากยืดเยื้อยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้แก่นักลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นปิดร่วง 1 จุด ตลาดกังวลปัจจัยต่างประเทศ โบรกฯ ยอมรับนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจที่จะเข้ามาลงทุน สังเกตได้จากมูลค่าการซื้อขายไม่สูงมากนัก หากสถานการณ์ในสหรัฐฯ ยืดเยื้อ ก็จะยิ่งทำให้ความกังวลมีมากขึ้น และเป็นตัวถ่วงตลาด

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,427.72 จุด ลดลง 1.46 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.10% มูลค่าการซื้อขาย 31,447.37 ล้านบาท ด้านสัดส่วนนักลงทุนวันนี้ ต่างชาติขาย 2.3 พันล้าน รายย่อยซื้อ 1 พันล้าน สถาบันซื้อ 114 ล้าน และบัญชีโบกเกอร์ซื้อ 1.1 พันล้าน

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน จากแรงกดดันเรื่องการเจรจาหาข้อตกลงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 57 ของสหรัฐฯ ที่มีความล่าช้ากว่าที่คาดไว้ แต่ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายลดช่วงลบลงเล็กน้อย หลังรับรู้ข่าวดีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 57 ของไทยไม่ขัด หรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่วันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบ โดยนักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของสถานการณ์ต่างๆ เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่ลดลง

แนวโน้มสัปดาห์หน้าเชื่อว่า ตลาดยังคงแกว่งตัวผันผวนใน Upside ที่จำกัด โดยจะต้องติดตามเรื่องงบประมาณของสหรัฐฯ ต่อไปว่าจะสามารถาหาข้อตกลงกันได้หรือไม่ เมื่อใด รวมถึงแนวโน้มการปรับเพดานหนี้สาธารณะ เนื่องจากใกล้วันที่ 17 ต.ค. ตลาดจะมีความกังวลมากขึ้น พร้อมให้แนวรับที่ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,450 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยง ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดยังคงกังวลกับปัจจัยต่างประเทศ คือ การผ่านงบประมาณปี 2557 ของสหรัฐฯ และการขยายเพดานหนี้ที่จะครบกำหนด 17 ต.ค.นี้ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจที่จะเข้ามาลงทุน สังเกตได้จากมูลค่าการซื้อขายไม่มากนัก

ทั้งนี้ หากสถานการณ์ดังกล่าวยิ่งยืดเยื้อออกไปจะยิ่งทำให้ความกังวลมีมากขึ้น และเป็นตัวถ่วงตลาด ทำให้ประเมินว่าในสัปดาห์หน้าดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวระหว่าง 1,380-1,470 จุด แต่หากสุดสัปดาห์นี้พรรคการเมืองสหรัฐฯ มีข้อสรุปเรื่องงบประมาณจะเป็นปัจจัยบวกขึ้นมาได้

สำหรับหลักทรัพย์ที่มูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

TRUE มูลค่า 2,305.59 ล้านบาท ปิดที่ 8.55 บาท +0.25 บาท หรือ +3.01%

KTB มูลค่า 1,747.81 ล้านบาท ปิดที่ 19.80 บาท -0.40 บาท หรือ -1.98%

KBANK มูลค่า 1,521.83 ล้านบาท ปิดที่ 177.00 บาท -3.00 บาท หรือ -1.67%

CK มูลค่า 1,405.61 ล้านบาท ปิดที่ 22.50 บาท +0.20 บาท หรือ +0.90%

JAS มูลค่า 1,376.67 ล้านบาท ปิดที่ 9.35 บาท +0.25 บาท หรือ +2.75%
กำลังโหลดความคิดเห็น