ดัชนีหุ้นไทยวันนี้เด้งขึ้นแรง ดัชนีปิดบวก 20 จุด เผยตลาดฯ มั่นใจ “เฟด” ยังไม่กล้าลดขนาด “คิวอี” โดยมีแรงซื้อกลับในหุ้นขนาดใหญ่ทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาค โดยเฉพาะจีน ช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุน โดยเชื่อว่าเม็ดเงินจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นย่านอเชีย
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (3 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,429.18 จุด เพิ่มขึ้น 20.19 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.43% มูลค่าการซื้อขาย 39,972.20 ล้านบาท ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค เนื่องจากตลาดฯ เริ่มมีความหวังว่าปัญหาการคลังของสหรัฐฯ จะสามารถคลี่คลายลงได้ในที่สุด ขณะที่ตลาดหุ้นจีนก็สดใสขึ้น ส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาในตลาดฯ
ด้านสัดส่วนนักลงทุน นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 90.39 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 3,554.67 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 120.28 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ 3,344 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ยอมรับว่า นักลงทุนกลับเข้าเก็งกำไรในตลาดอีกครั้ง โดยมีความหวังว่าการปิดหน่วยงานราชการสหรัฐบางส่วน (Government Shut down) จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีความระมัดระวังในการปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ขณะที่หลายฝ่ายให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่แข็งแรงพอ อีกทั้งปัญหาทั้งเรื่องงบประมาณและเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ยังไม่ลงตัว
สำหรับปัจจัยภายในยังต้องจับตาผลการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี2557 ว่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ในวันพรุ่งนี้ และร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่เข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 7 ต.ค.นี้
ด้านนายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า บรรยากาศการลงทุนในภูมิภาคนี้ปรับตัวดี โดยเฉพาะจีน ได้ฉุดให้ตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคปรับตัวบวกตามมาด้วย ภายหลังสถานการณ์ในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มไม่ค่อยดี ทำให้การลงทุนได้ไหลมาเข้ามาลงทุนหุ้นในภูมิภาคนี้
สำหรับตลาดหุ้นในประเทศนั้นยืนในแดนบวก โดยมีแรงซื้อกระจายหลากหลายกลุ่ม ทั้งธนาคารพาณิชย์ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เน้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ
ส่วนทิศทางตลาดหุ้นในวันที่ 4 ต.ค. นี้ มีแนวต้านที่ 1,440 จุด แต่เชื่อว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นรอบนี้เป็นการดีดตัวทางเทคนิคในระยะสั้นเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะต้องติดตาม ไม่ว่าจะเป็นกรณีของการปิดทำการชั่วคราวหน่วยงานรัฐบาล และการขยายเพดานหนี้
ขณะที่ปัจจัยในประเทศจะมีประเด็นเรื่องการทบทวนการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2556 ของประเทศไทย โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเด็นเหล่านี้ยังต้องรอความชัดเจน เพราะมีอิทธิพลการการลงทุนในตลาดหุ้น
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
TRUE ปิดที่ 8.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 2.47% มูลค่าการซื้อขาย 2,631 ล้านบาท
JAS ปิดที่ 9.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 7.06% มูลค่าการซื้อขาย 2,291 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 180 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท หรือ 1.69% มูลค่าการซื้อขาย 2,121 ล้านบาท
BLAND ปิดที่ 1.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 8.97% มูลค่าการซื้อขาย 2,099 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 156 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 2.97% มูลค่าการซื้อขาย 1,396 ล้านบาท