“กิตติรัตน์” มั่นใจไม่เกิดภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาฯ “ธอส.” เผยตลาดแข่งขันกันสูง

“กิตติรัตน์” มั่นใจไม่เกิดภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาฯ อย่างแน่นอน เชื่อทุกแบงก์มีแผนรับมือ “ธอส.” คาดภาคธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้เติบโตได้ถึง 5% ย้ำไม่มีฟองสบู่แน่นอน เพราะตลาดมีการแข่งขันด้านราคาเพื่อแข่งกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ประชาชนมีกำลังซื้อลดลง กลุ่มเก็งกำไรขายใบจองเริ่มหายเงียบ

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน มหกรรมธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 60 ปี มีบ้านมีสุข โดยระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา แม้สภาวะเศรษฐกิจของไทยจะชะลอตัวลง แต่ภาคอสังหาริมทรัพย์ และจำนวนของที่อยู่อาศัยยังคงขยายตัวได้ดี

ทั้งนี้ พบว่าบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์มีการเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะความต้องการของประชาชนที่อยู่ในภูมิภาค และต่างจังหวัดที่มีกำลังซื้อกระจายตัว ขณะที่ในกรุงเทพมหานคร ความต้องการในส่วนของคอนโดมิเนียม ในย่านการคมนาคมที่สะดวกยังมีความต้องกาและมีความเติบโตต่อเนื่อง

ซึ่งการควบคุมที่ดีของระบบธนาคารพาณิชย์ ที่ให้ความระมัดระวังในการปล่อยกู้แก่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงตัวบริษัทเองมีการระมัดระวังโดยมีทุนที่สูง ยอดการกู้เงินที่น้อย และตัวผู้ซื้อเองก็เป็นกลุ่มที่มีการระมัดระวัง มีการชำระเงินดาวน์ในอัตราที่เหมาะสม คำนึงถึงความสามารถในการผ่อนชำระ ทั้งในสถาบันการเงิน และตัวผู้กู้ ทำให้เชื่อว่ากลไกดังกล่าวจะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่การระดมเงินฝากอัตราดอกเบี้ยสูงของ ธอส. ในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำร้อยละ 4.6 มองว่า เป็นโอกาสในการตอบแทนลูกค้าเท่านั้น ไม่ได้เป็นการระดมเงินฝากเนื่องจากเป็นห่วงปัญหาสภาพคล่องแต่อย่างใด โดยยืนยันว่าปัจจุบันสภาพคล่องเงินบาทในระบบการเงินยังมีจำนวนมาก

ด้านนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. เชื่อว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยในปีนี้จะเติบโตได้ร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเติบโตของคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า การคมนาคมที่สะดวก โดยขณะนี้ยอดคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีประมาณ 57,000-58,000 หน่วย และที่อยู่อาศัยแนวราบ มีจำนวนประมาณ 28,000-29,000 หน่วย

ทั้งนี้ นายสัมมา เชื่อว่าภายในปีนี้ปีจะมีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่จำนวน 70,000-75,000 หน่วย สูงกว่าปีที่ผ่านมา ที่มีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ 63,000 หน่วย ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบจะมีเกิดใหม่ทั้งหมด 40,000 หน่วย ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับยอดการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีนี้ที่ใกล้เคียงกับปีก่อน ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 470,000 ล้านบาท ขณะที่ การเติบโตภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 คาดว่าจะเติบโตประมาณร้อยละ 5-10 จากอานิสงส์ของการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล

นายสัมมา ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตนเองมีความมั่นใจว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยจะไม่เกิดปัญหาภาวะฟองสบู่อย่างแน่นอน เนื่องจากราคาคอนโดมิเนียมใหม่มีราคาถูกลง มีการแข่งขันด้านราคาเพื่อแข่งกับปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชนที่มีกำลังซื้อลดลง ทำให้ขณะนี้พฤติกรรมการขายใบจองเพื่อการเก็งกำไรจึงลดลง