CEO บมจ.บางกอก เดค-คอน หรือ BKD มั่นใจเทรดวันแรกพรุ่งนี้ราคาเหนือจองแน่นอน เหตุบริษัทฯ มี Backlog มาก ตั้งเป้า 3 ปีหลังเข้าตลาดจะมีกำไร และรายได้เติบโตเฉลี่ย 30% เผย พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน บ.ได้รับอานิสงส์โดยตรง
นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอก เดค-คอน หรือ BKD กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นว่าหุ้นของบริษัทที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันพรุ่งนี้จะได้รับการตอบรับจากจักลงทุนอย่างดี และมีราคาที่สูงกว่าราคาจองซื้อหุ้น IPO ที่ราคา 1.50 บาทแน่นอน เพราะบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิถึง 32.51 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 290.05 ล้านบาท
“ไม่กังวลภาวะตลาดในขณะนี้ เนื่องจากบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้อยู่จำนวนมาก ขณะนี้บริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้อยู่แล้วประมาณ 1,000 ล้านบาท และในปลายปีจะมีงานของหน่วยงานราชการที่ต้องการจะเคลียร์งบประมาณรายจ่ายให้เข้าประมูลเพิ่มเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่างานประมาณ 4-5 พันล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังว่าจะได้งานดังกล่าวประมาณ 50% ของมูลค่างานทั้งหมด และเงินที่ได้จากการระดมทุนขายหุ้น IPO ครั้งนี้ บริษัทจะนำมาใช้ในลักษณะเงินทุนหมุนเวียน และเสริมสภาพคล่องของบริษัท”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคาหุ้น IPO ของบริษัทนั้นที่ได้ให้ส่วนลดมากถึง 40% หากเทียบกันกับหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน ซึ่งบริษัทวางแนวโน้มสัดส่วนงานในปีหน้าเป็นภาครัฐ 70% และงานภาคเอกชน และรับช่วงต่ออื่นๆ อีก 30% โดยแผนระยะยาว 3 ปีบริษัทตั้งเป้าที่จะให้บริษัทมีกำไร และรายได้เฉลี่ย 30% เติบโตไปในลักษณะล้อกันไป ซึ่งกำไรขั้นต้น 40% จะเป็นส่วนที่จะนำมาจ่ายเป็นเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าหาก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านผ่านการลงมติของสภา บริษัทฯ จะไดรับอานิสงส์จากโครงการนี้โดยตรง เพราะบริษัทที่ถนัดไซต์งานขนาดเล็กจะมีน้อย และปัจจุบันบริษัทฯรับช่วงงานส่วนใหญ่มาจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่คือ บมจ.ช.การช่าง หรือ CK บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ STEC และบริษัท เบ็ญจมาศ จำกัด อยู่แล้ว เพราะบริษัทเหล่านี้ไม่มีหน่วยงานตกแต่งภายใน