แรงซื้อ BKD กระฉูดเปิดเทรดวันแรกวิ่งขึ้นทะลุ 2.80 บาท จากราคา IPO ที่ 1.50 บาท ณ เวลา 09.58 นาที จากปัจจัยพื้นฐานหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีอัตราเติบโตต่อเนื่อง จึงจัดได้ว่าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และในอนาคตมีโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพได้สูงขึ้น มีโครงการต่อเนื่องระยะยาวทั้งใน และต่างประเทศ
รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า การเข้าซื้อขายบนกระดานของหุ้น บมจ.บางกอก เดค-คอน หรือ BKD ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดที่ระดับ 2.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท จากราคา IPOที่ 1.50 บาท/หุ้น ณ เวลา 09.58 นาที มูลค่าการซื้อขาย 120.39 ล้านบาท
นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอก เดค-คอน หรือ BKD กล่าวว่า พอใจในราคาหุ้นที่เปิดตลาดมาในวันซื้อขายวันแรกนี้ เพราะมีนักลงทุนให้ความสนใจ และมีความเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัทฯ ว่า แนวโน้มจะมีอนาคตที่ดี ราคาหุ้นบริษัทฯ ที่เปิดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรกสูงกว่าราคาจองซื้อที่ 2.80 บาท น่าจะมาจากนักลงทุนเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ ซึ่งเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยคาดว่ารายได้ และกำไรในปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10-15% หลังจากที่บริษัทฯ ได้มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
สำหรับความกังวลสถานการณ์ตลาดนั้น บริษัทไม่กังวลภาวะตลาดในขณะนี้ เนื่องจากบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้อยู่จำนวนมาก ขณะนี้บริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้อยู่แล้วประมาณ 1,000 ล้านบาท และในปลายปีจะมีงานของหน่วยงานราชการที่ต้องการจะเคลียร์งบประมาณรายจ่ายให้เข้าประมูลเพิ่มเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่างานประมาณ 4-5 พันล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังว่าจะได้งานดังกล่าวประมาณ 50% ของมูลค่างานทั้งหมด และเงินที่ได้จากการระดมทุนขายหุ้น IPO ครั้งนี้ บริษัทจะนำมาใช้ในลักษณะเงินทุนหมุนเวียน และเสริมสภาพคล่องของบริษัท
“หลังจากที่บริษัทฯ ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai แล้ว จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นงานที่ร่วมกับบริษัทพันธมิตรในประเทศนั้นๆ หรือรับช่วงงานต่อจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยขณะนี้เตรียมที่จะไปเสนองานตกแต่งภายในกลุ่มโรงแรมที่ประเทศพม่า เพราะเป็นงานที่บริษัทถนัด และโครงสร้างงานตกแต่งภายในโรงแรมนั้นเป็น Mass Product ซึ่งบริษัทรับช่วงต่องานมาจาก บมจ.ช.การช่าง หรือ CK นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการยื่นเสนองานให้แก่สถานทูตไทยในประเทศลาว ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเร็วๆ นี้”
อย่างไรก็ดี ในส่วนของน้ำท่วมขณะนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมด้วยการสร้างกำแพงกั้นน้ำระดับความสูงกว่า 3 เมตร ซึ่งจากที่บริษัทเคยประสบปัญหาน้ำท่วมในปี 2554 ที่ผ่านมา จึงได้หาแนวทางป้องกันน้ำท่วมไว้ และยังมีเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการเคลมประกันภัยไว้นำมาตั้งสำรองวงเงินประกันเพื่อป้องกันปัญหาจากภัยธรรมชาติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
