โบรกฯ เผยกองทุนไทยอยู่ในช่วงปรับพอร์ตใหม่ ด้านเทคนิคยังเสี่ยงปรับฐาน

หุ้นไทยยังแกว่งผันผวน ปิดครึ่งวันเช้าบวก 4 จุด โบรกฯ เผยตลาดเปิดติดลบ และดีดกลับบวกได้เพราะภาพรวมตลาดเมื่อวานแย่กว่าที่คาดไว้มาก แนะระวัง “กองทุนไทย” อยู่ในช่วงปรับพอร์ตใหม่ แนวโน้มด้านเทคนิคยังเสี่ยงปรับฐาน คาดรอปัจจัยใหม่หนุน

ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (24 ก.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,441.10 จุด เพิ่มขึ้น 4.42 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 20,421.07 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ และเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ดัชนีปรับลงต่อก่อนรีบาวนด์กลับได้ เป็นเพราะสถานการณ์ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้แย่กว่าที่คาดมาก และหากวันนี้ถ้าเด้งกลับได้จริงแนะให้ลดพอร์ตไปก่อน โดยมีปัจจัยจาก 1.กองทุนไทยอยู่ในช่วงขายปรับพอร์ต หลังข่าวดีเรื่องสหรัฐฯ ต่อ QE และเก็งกำไร พ.ร.บ. 2 ล้านล้านผ่านไปแล้ว

2.ต่างชาติไม่ขายหนักแต่เงินไหลเข้าจะชะลอตามปัจจัยหนี้ภาครัฐของอเมริกา ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเจรจาระหว่างรีพับลิกัน และเดโมแครต คาดว่า จะมีข้อสรุปในช่วงท้ายสุดเลย 3.ตลาดทิ้งหุ้นที่เน้นปัจจัยภายใน และปรับน้ำหนักไปที่หุ้นที่พึ่งพิงปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะจีน อาจเป็นเป้าหมายเก็งกำไรได้

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยช่วงเช้ายังนิ่ง และค่อนข้างเงียบ วอลุ่มเทรดไม่มาก โดยรวมน่าจะเป็นลักษณะของการจับตารอปัจจัยใหม่เข้ามา ซึ่งการเคลื่อนไหวตลาดบ้านเราคล้ายกับตลาดภูมิภาคเอเชียที่แกว่งตัวไม่มากส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ

ทั้งนี้ ตลาดยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเรื่องการลดขนาด QE, การขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่ยังต้องติดตาม และต้องรอดูการอภิปรายงบประมาณปี 57 ของสหรัฐฯ อีกด้วย ส่วนปัจจัยในบ้านเราก็มีเรื่องการเมืองที่จะต้องรอดูร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของ ส.ว.ว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และต้องรอดูเรื่อง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะผ่านไปอย่างราบรื่นหรือไม่

อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนียังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,450 จุดได้ ทำให้ตลาดมีโอกาสที่จะปรับฐานได้อีกรอบ ดังนั้น ในทางกลยุทธ์จึงน่าจะเลือกซื้อเมื่อดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1,450 จุด แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย หากยังไม่มีปัจจัยอะไร คาดว่าตลาดคงจะแกว่งในลักษณะ Wait & See พร้อมให้แนวรับ 1,420-1,400 จุด แนวรับถัดไป 1,380 จุด ส่วนแนวต้านให้ที่ 1,450-1,460 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

INTUCH บวก 0.75 บาท มาที่ 86.25 บาท

SCB อยู่ที่ 161.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

TRUE บวก 0.15 บาท มาที่ 8.10 บาท

CPALL ลบ 0.50 บาท มาที่ 38.50 บาท

BANPU บวก 8.00 บาท มาที่ 298.00 บาท