กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง คงเป้ารายได้เติบโตปีนี้ 10% ใกล้เคียงปีที่แล้วที่ 4.71 พันล้านบาท เตรียมยื่นประมูลงานรัฐคาดได้งาน Solar rooftop ไม่น้อยกว่า 30 เมกะวัตต์ มูลค่างานกว่า 1.8 พันล้านบาท
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้เติบโต 10% ของปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ที่มีรายได้อยู่ที่ 4.71 พันล้านบาท โดยบริษัทเตรียมลงทุนเพิ่มในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมห้วยบง ขนาดกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ โดยใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 4 พันล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนนี้ ทั้งนี้ เงินลงทุนบางส่วนอาจมีการขอกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงานด้านเทรดดิ้งในพม่าที่พลาดเป้ารายได้จากที่ตั้งไว้ 600 ล้านบาท เป็น 60 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีการสั่งยอดออเดอร์ที่เข้ามามากทำให้ยอดขายลดลง แต่บริษัทหวังรายได้เข้ามาจากงานแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งบนหลังคา หรือ Solar rooftop ซึ่งบริษัทฯ ได้ยื่นขอทำโครงการจำนวน 60 เมกะวัตต์ จากที่ ครม.อนุมัติจำนวน 100 เมกะวัตต์ โดยบริษัทคาดหวังว่าจะได้โครงการ Solar rooftop อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 30 เมกะวัตต์ มูลค่าประมาณ 1.8 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากงานก่อสร้าง และการจำหน่ายไฟให้แก่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เข้ามาในช่วงปลายปี ซึ่ง Solar rooftop ได้มีการจับมือกับพันธมิตรอื่นๆ อีก 4-5 ราย โดยส่วนหนึ่งร่วมกับ WHA ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 25% รายได้ขายไฟเฉลี่ยปีประมาณ 9-10 ล้านบาท/เมกะวัตต์ โดยจะนับรวมไปกับรายได้ชดเชยรายในส่วนของงานขายของประเทศพม่าที่เสียไป
ทั้งนี้ สำหรับงานที่บริษัทฯ จะเข้าประมูลในช่วงที่เหลือของปีจะมีมูลค่าที่ 4-5 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้งานอย่างน้อย 2.5 พันล้านบาท โดยงานที่บริษัทจะเข้ายื่นประมูลอย่างเช่น งานก่อสร้าง Solar Farm ของกลุ่มบางจาก มูลค่างาน 800-1,200 ล้านบาท ในเดือน ต.ค. งานติดตั้ง Solar rooftop มูลค่า 1.8 พันล้านบาท งาน Solar rofftop ของ EGAT 5 เทคโนโลยี มูลค่า 700 ล้านบาท และงานกังหันพลังงานลม มูลค่า 700 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) สุทธิ 1.1 พันล้านบาท
ขณะที่โครงการ Gas Engine ในประเทศพม่าที่บริษัทฯ ได้เข้าร่วมลงทุนร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น นอกเหนือจากโครงการ ห้วยบง อยู่ระหว่างขั้นตอนการปรับเปลี่ยนรูปแบบพันธมิตรท้องถิ่นในพม่าจาก Local Company เป็น Foreign Company เพื่อดำเนินการขอใบอนุญาต โดยบริษัทคาดว่าภายในปี 59 จะมีกำลังการผลิตรวมไม่น้อยกว่า 180 เมกะวัตต์ คาดได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้
