โบรกฯ เผยสัญญาณเม็ดเงินไหลเข้าภูมิภาค ไทยสูงสุดในกลุ่มทิพ แนะจับตาการขยายหนี้เพดานสหรัฐฯ ทันกำหนดหรือไม่ เพราะอาจส่งผลต่ออันดับเครดิต พร้อมเกาะติด พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน จ่อเข้าสภาฯ กลางเดือนนี้ ส่วนภาวะหุ้นเช้าดัชนีปรับขึ้นต่อได้ท่ามกลางแรงขายทำกำไร
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 ก.ย.) โดยมองว่า ดัชนีจะยังปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง ภายใต้แรงขายทำกำไร หลังดัชนีขึ้นติดต่อกัน 2 วัน ประมาณ 70 จุด โดยคาดได้รับปัจจัยบวกจากเม็ดเงินไหลเข้า (Fund Flow) ทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งล่าสุด ต่างชาติซื้อสุทธิในไทยติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เกือบ 3,000 ล้านบาท สูงกว่า อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ขณะที่ประเด็นต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอน ทั้งประเด็น 1.การใช้ทหารเข้าโจมตีซีเรีย ที่คาดมีความชัดเจนจากวุฒิสภาของสหรัฐฯ ที่จะมีการลงมติในวันพุธที่ 11 กันยายน 2556 นี้ และประเด็น 2.วงเงินอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ที่คาดมีความชัดเจนในการประชุมเฟด 17-18 กันยายน 2556 นี้
นอกจากนี้ ยังแนะติดตามประเด็นหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่คาดจะถึงเพดานที่กำหนด ประมาณกลางเดือน ต.ค. นี้ ซึ่งการขยายเพดานหนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรส และหากไม่ทันกำหนดอาจส่งผลต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ รวมถึงเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ 2.94%
ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ แนะจับตาประเด็นการพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ในสัปดาห์นี้ โดยคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะได้รับประโยชน์โดยตรงจาก พ.ร.บ.ดังกล่าว รวมถึงติดตามทิศทางค่าเงินบาทที่ส่งผลต่อกลุ่มส่งออก เช่น DELTA และ KCE เป็นต้น
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ มองดัชนีกำลังชนแนวต้าน 1,398-1,400 จุด เนื่องจากปัจจัยหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นรับตัวเลขเศรษฐกิจจีน และข่าวบวกล่าสุด เรื่องซีเรีย หลังซีเรียตอบรับแผนส่งมอบอาวุธเคมีให้องค์กรนานาชาติดูแล ตามที่รัสเซียเรียกร้อง ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่มีการโจมตีจากสหรัฐฯ
นอกจากนี้ จีนจะรายงานตัวเลขภาคอุตสาหกรรม และภาคค้าปลีกเช้าวันนี้ ถ้าดีต่อจะหนุนหุ้นเอเชียอีก โดยต่างชาติ และกองทุนกลับมาซื้อหนัก และเงินบาทเช้านี้แข็งค่าต่อ
ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ รัฐสภาถกรัฐธรรมนูญ (รธน.) ต่อในวันนี้ โดยคาดว่า จะพยายามดันให้จบภายในสัปดาห์นี้ เพื่อส่ง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เข้าสภาฯ ภายในช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้
ด้านภาวะตลาดหุ้นภาคเช้า (10 ก.ย.) ดัชนีแกว่งผันผวนในแดนบวก โดยเมื่อเวลา 10.49 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,397.36 จุด เพิ่มขึ้น 13.05 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.94% มูลค่าการซื้อขาย 17,605.37 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อนำในกลุ่มแบงก์ แต่ก็มีแรงขายออกมาในหุ้นพลังงาน และสื่อสารตัวใหญ่