ตลาดแกว่งผันผวน ดัชนีภาคเช้าปิดบวก 1 จุด กังวลสหรัฐฯ ส่งกำลังโจมตีซีเรีย แนะจับตาทิศทางค่าเงินบาทส่งผลต่อกลุ่มส่งออก ส่วนหุ้นพลังงานวิ่งเก็งกำไรน้ำมันพุ่ง
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (4 ก.ย.) ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,316.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.16 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 16,077.59 ล้านบาท โดยภาพรวมตลาดเช้าวันนี้ ดัชนีแกว่งผันผวนทั้งบวกและลบ โดยช่วงที่ดัชนีปรับขึ้นก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มีแรงซื้อหุ้นพลังงาน เก็งกำไรราคาน้ำมันพุ่ง
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดถูกกดดันภายใต้ปัจจัยต่างประเทศในระยะสั้น โดยเฉพาะประเด็นความกังวลเรื่องการใช้กำลังทหารของสหรัฐฯ โจมตีซีเรีย ที่คาดมีความชัดเจนในการประชุมรัฐสภาวันที่ 9 กันยายน 2556 นี้ และความเป็นไปได้ที่จะมีการพิจารณาปรับลดวงเงินรับซื้อคืนพันธบัตร (คิวอี) รวมทั้งต้องติดตามหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่คาดจะถึงเพดานประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งหากการขยายเพดานหนี้จากความเห็นชอบของสภาคองเกรสไม่ทันกำหนด อาจส่งผลต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ
ด้านปัจจัยในประเทศ แม้จะมีประเด็นบวกจากการไหลของเงินทุนที่ต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 1,300 ล้านบาท แต่ภาพรวมคาดยังคงมีควาผันผวน ขณะที่ประเด็นการพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ถูกเลื่อนไปสัปดาห์หน้า อาจจะกดดันต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในระยะสั้น ทั้งนี้ ยังแนะติดตามทิศทางค่าเงินบาทที่ส่งผลต่อกลุ่มส่งออก
ด้านฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินแนวโน้มการลงทุนค่อนไปในทางลบ แม้ว่าตัวเลขภาคก่อสร้าง และภาคการผลิตสหรัฐฯ จะออกมาดีเกินคาด แต่ความวิตกปัญหาซีเรียกลับเข้ามาอีกระลอก เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามโน้มน้าวให้สภาคองเกรสเห็นด้วยกับการใช้กำลังทหารเข้าโจมตีซีเรีย
นอกจากนี้ ความกังวลในเรื่องเดิมๆ ยังคงมีอยู่ เช่น การลด QE ซึ่งเฟดจะประชุม 17-18 ก.ย. นี้ รวมถึงการขอขยายเพดานหนี้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ การชะลอตัวของการบริโภค และการลงทุนในประเทศ ปัญหาการเมืองไทย เป็นต้น
ดังนั้น โดยภาพรวมแล้วตลาดยังมีสิทธิผันผวน การลงทุนตามรอบจึงต้องปรับกลยุทธ์ให้เร็วเท่าทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในระยะสั้น ส่วนการลงทุนระยะกลาง-ยาว เป็นลักษณะของการเลือก และทยอยซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ