xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.แนะเลิกตื่นเงินไหลออก พร้อมให้ความสำคัญกับอุปสงค์ในประเทศเป็นหลัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธปท.เตือนนักลงทุนอย่าตื่นต่างชาติแห่ขนเงินออก เชื่อไม่นานเดี๋ยวก็ไหลกลับเข้ามา เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีพื้นฐานดี พร้อมประเมินเหตุการณ์ “ซีเรีย” มีผลกระทบแค่ในระยะสั้น แนะจากนี้ไปต้องให้ความสำคัญกับอุปสงค์ในประเทศเป็นหลักก่อน ส่วนเงินทุนจะเข้ามาหรือไม่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก เพราะสภาพคล่องในประเทศยังมีเพียงพอที่จะสนับสนุนการลงทุนทั้งภาครัฐ และเอกชน

นางสุชาดา กิระกุล ที่ปรึกษาผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายในระยะนี้แม้จะมีการไหลออกของเงินทุนบ้างในระยะสั้น แต่ก็เป็นการไหลออกทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งนักลงทุนอยู่ระหว่างการตั้งรับต่อสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ดี กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นภาวะปกติ เนื่องจากประเมินปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทย และประเทศในเอเชียยังไม่ถือมีประเด็นที่น่าวิตกเป็นพิเศษ ขณะเดียวกัน ยังคงมีเสถียรภาพ และความมั่นคงของระบบการเงิน และสถาบันการเงินในระดับที่เพียงพอ ทางด้านเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนแบบยืดหยุ่น

ขณะเดียวกัน ในระยะข้างหน้าประเทศไทยยังมีแผนการลงทุนในเชิงโครงสร้าง ดังนั้น หากภาวะการเงินของโลกฟื้นตัวดีขึ้น เศรษฐกิจไทยก็มีความพร้อมเพียงพอที่จะขับเคลื่อนไปพร้อมกัน อีกทั้งหากประเมินความน่าสนใจในตลาดเกิดใหม่ทางด้านผลตอบแทน เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูงมากกว่าประเทศเศรษฐกิจหลัก เชื่อว่าจะยังสามารถดึงดูดความน่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญ และมองว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีและต่อเนื่องไปยังปีหน้า คือ ภาคอุปสงค์ภายในประเทศ รวมถึงการลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชน ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถเดินหน้าเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็งต่อเนื่องได้

“เงินทุนเคลื่อนย้ายก็มีออกไปบ้างหากดูจากภาวะตอนนี้ แต่ก็ยังไม่ได้ออกไปทั้งหมด ซึ่งก็ถือเป็นการลงทุนของนักลงทุนที่ต้องกระจายพอร์ตในการลงทุนออกไป แต่ภูมิภาคเราโดยรวมผลตอบแทนยังสูง ดอกเบี้ยก็สูงกว่าประเทศอุตสาหกรรม คนที่เป็นนักลงทุนระยะสั้นเขาก็กลับไปก่อน แต่ถ้ามองพื้นฐานตามการอ้างอิงเขาก็คงไม่ทิ้งภูมิภาคนี้ และประเทศไทย”

ทั้งนี้ แม้ว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจะมาจาก 2 ด้าน คือ ด้านต่างประเทศจากการนำเข้า-ส่งออก และด้านในประเทศซึ่งมาจากทั้งภาคธุรกิจ ประชาชน และภาครัฐที่มีการใช้จ่าย ธปท.มองว่า จากนี้ไปต้องให้ความสำคัญกับอุปสงค์ในประเทศเป็นหลักก่อน ส่วนเงินทุนจะเข้ามาหรือไม่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก เพราะสภาพคล่องในประเทศยังมีเพียงพอที่จะสนับสนุนการลงทุนทั้งภาครัฐ และเอกชน

“ซึ่งถ้าเงินต่างประเทศเข้ามา และมีเสถียรภาพก็คงจะดี แต่ถ้าเข้ามาเป็นเงินระยะสั้น ถ้าเขาจะออกไปก็ไม่เป็นไร”

ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ อาจจะใช้กำลังทหารกับซีเรียเพื่อตอบโต้ความรุนแรงที่ซีเรียใช้อาวุธทางเคมีทำร้ายประชาชนนั้น ในส่วนของประเทศไทยเชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริษัทน้ำมันได้มีการกันสำรองน้ำมันไว้แล้ว รวมถึงการป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไว้พอสมควรแล้ว

ดังนั้น ในแง่ของเงินเฟ้อจึงไม่น่าได้รับผลกระทบมากนัก และน่าจะรองรับการปรับตัวของราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้ โดยขณะนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่เพียง 2.2-2.3% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่สูง ดังนั้น ประเด็นดังกล่าวจึงเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น

นอกจากนี้ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นฐานเศรษฐกิจเช่นกัน เนื่องจากมีความเข้มแข็ง และมีเสถียรภาพทางด้านการเงินและสถาบันการเงิน สะท้อนจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่หนี้ต่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ

อย่างไรก็ตาม ในแง่เศรษฐกิจไทยระยะสั้นยังมีปัจจัยที่สัมพันธ์กัน ได้แก่ เศรษฐกิจของประเทศหลัก ซึ่งแม้มีสัญญาณดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ชัดเจน ซึ่งสหรัฐฯ พยายามที่จะดำเนินนโยบายการเงินผลักดันให้ประเทศมีการฟื้นตัว ซึ่งก็จะส่งผลบวกต่อประเทศอื่นๆ ที่มีการค้าขายร่วมกันปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย ขณะที่แนวโน้มของประเทศที่เศรษฐกิจดีอยู่แล้วก็เริ่มมีทิศทางที่อ่อนแอลง ดังนั้น ยังอยู่ในช่วงที่ต้องมีความระมัดระวัง

ขณะนี้ยังต้องรอติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันที่จะปรับตัวขึ้นจากการขนส่งที่มีความลำบากมากขึ้น โดยจะส่งผลโดยตรงต่อประเทศที่นำเข้าน้ำมัน แต่เชื่อว่านานาชาติพยายามจะไม่ให้เกิดความรุนแรง หรือผลักดันให้เรื่องดังกล่าวจบลงโดยเร็วที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น