กสิกรฯ ชี้สถานการณ์ด้านบุคลากรแบงก์แข่งขันสูง หลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งใน และต่างประเทศ มีการดึงตัวกันวุ่น ห่วงดันผลตอบแทนสูงลิ่วเกินมาตรฐาน
นายสุรศักดิ์ ดุษฎีเมธา รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานทรัพยากรบุคคล ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแข่งขันด้านแรงงานของธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับรุนแรง ทั้งในส่วนของพนักงานใหม่ และพนักงานที่มีประสบการณ์แล้ว เนื่องจากธนาคารพาณิชย์โดยรวมมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งในส่วนของธนาคารกสิกรไทย จะรับพนักงานเพิ่มในทุกๆ ปี โดยในปี 2556 มีความต้องการรับพนักงานเพิ่มกว่า 4,500 คน จากจำนวนพนักงานทั้งสิ้นที่มีอยู่ 19,000 คน เป็นพนักงานประจำสาขาราว 8,600 คน จากสาขา จำนวน 850 สาขา
ทั้งนี้ พนักงานที่รับเข้ามาเพิ่ม สัดส่วน 1 ใน 3 มีการรับเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์งานรูปแบบใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น ส่วนที่เหลือเป็นการรับเพื่อเติมเต็มพนักงานที่ลาออก และปลดเกษียณ โดยมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินเดือนพนักงานของธนาคารอยู่ที่ราว 15,000 ล้านบาท และมีอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ขณะที่อัตราการลาออกเฉลี่ยของธนาคารอยู่ที่ 12% ในปีที่ผ่านมา และในช่วงครึ่งปี 2556 มีอัตราการลาออกอยู่ที่ 8.45% ซึ่งอัตราดังกล่าวของธนาคารทุกแห่งในระดับขณะนี้ก็เป็นเลขสองหลักเช่นกัน
“เหตุผลของการลาออกก็มีหลากหลาย ไม่ใช่งานที่ใช่ เรียนต่อ แล้วก็ไปทำงานกับธนาคารอื่น ซึ่งเรื่องการดึงตัวกันนั้นก็มีมานาน แต่เริ่มรุนแรงขึ้น และที่น่าเป็นห่วงคือ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้เรื่องของราคาเข้ามา แล้วก็เกรงว่าจะขึ้นไปสู่จุดที่ไม่สมเหตุสมผล ก็จะส่งผลต่อระบบโดยรวม ซึ่งธนาคารก็สู้แต่ก็ต้องพิจารณาในเรื่องความสมเหตุสมผลด้วย”
นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า การค้นหาบุคลากรคุณภาพเป็นโจทย์ใหญ่ของทุกองค์กร และจะยิ่งมีการแข่งขันกันมากขึ้นเรื่อยๆ อัตราการยกระดับผลตอบแทนยิ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ในแง่การบริหารคนต้องมีเป้าหมายงานที่เป็นเชิงรุก ตอบโจทย์ให้รวดเร็ว มีกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ทำให้ทุกกระบวนการรวดเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ก็จะมีการเข้ามาของพนักงานที่เป็นคนต่างชาติมากขึ้น หลังจากที่ธนาคารมีแนวทางที่รุกธุรกิจต่างประเทศมากขึ้น ทั้งการออกไปเปิดสำนักงานในต่างประเทศ และการรับส่วนของต่างชาติที่จะเข้ามาด้วย ซึ่งในส่วนของธนาคารกสิกรไทย ก็มีแนวทางที่ชัดเจนในการของการขยายฐานไปในประเทศจีน ตรงนี้ก็จะต้องมีการจัดสรรบุคลากรเพื่อรองรับด้วย
“กลยุทธ์ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่สำคัญ คือ ต้องมีบุคลากรที่มีความสามารถอย่างเพียงพอ มีพนักงานที่มุ่งมั่นทำงาน และผูกพันกับองค์กร และเสริมสร้างภาวะผู้นำ สร้างองค์กรให้เป็นองค์กรที่น่าอยู่ รวมไปถึงมีระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ มีกระบวนการ และเครื่องมือรองรับ เสริมสร้างศักยภาพพนักงานบุคคล และมีแรงงานสัมพันธ์ที่เท่าเทียม”
นายสุรศักดิ์ ดุษฎีเมธา รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานทรัพยากรบุคคล ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแข่งขันด้านแรงงานของธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับรุนแรง ทั้งในส่วนของพนักงานใหม่ และพนักงานที่มีประสบการณ์แล้ว เนื่องจากธนาคารพาณิชย์โดยรวมมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งในส่วนของธนาคารกสิกรไทย จะรับพนักงานเพิ่มในทุกๆ ปี โดยในปี 2556 มีความต้องการรับพนักงานเพิ่มกว่า 4,500 คน จากจำนวนพนักงานทั้งสิ้นที่มีอยู่ 19,000 คน เป็นพนักงานประจำสาขาราว 8,600 คน จากสาขา จำนวน 850 สาขา
ทั้งนี้ พนักงานที่รับเข้ามาเพิ่ม สัดส่วน 1 ใน 3 มีการรับเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์งานรูปแบบใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น ส่วนที่เหลือเป็นการรับเพื่อเติมเต็มพนักงานที่ลาออก และปลดเกษียณ โดยมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินเดือนพนักงานของธนาคารอยู่ที่ราว 15,000 ล้านบาท และมีอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ขณะที่อัตราการลาออกเฉลี่ยของธนาคารอยู่ที่ 12% ในปีที่ผ่านมา และในช่วงครึ่งปี 2556 มีอัตราการลาออกอยู่ที่ 8.45% ซึ่งอัตราดังกล่าวของธนาคารทุกแห่งในระดับขณะนี้ก็เป็นเลขสองหลักเช่นกัน
“เหตุผลของการลาออกก็มีหลากหลาย ไม่ใช่งานที่ใช่ เรียนต่อ แล้วก็ไปทำงานกับธนาคารอื่น ซึ่งเรื่องการดึงตัวกันนั้นก็มีมานาน แต่เริ่มรุนแรงขึ้น และที่น่าเป็นห่วงคือ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้เรื่องของราคาเข้ามา แล้วก็เกรงว่าจะขึ้นไปสู่จุดที่ไม่สมเหตุสมผล ก็จะส่งผลต่อระบบโดยรวม ซึ่งธนาคารก็สู้แต่ก็ต้องพิจารณาในเรื่องความสมเหตุสมผลด้วย”
นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า การค้นหาบุคลากรคุณภาพเป็นโจทย์ใหญ่ของทุกองค์กร และจะยิ่งมีการแข่งขันกันมากขึ้นเรื่อยๆ อัตราการยกระดับผลตอบแทนยิ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ในแง่การบริหารคนต้องมีเป้าหมายงานที่เป็นเชิงรุก ตอบโจทย์ให้รวดเร็ว มีกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ทำให้ทุกกระบวนการรวดเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ก็จะมีการเข้ามาของพนักงานที่เป็นคนต่างชาติมากขึ้น หลังจากที่ธนาคารมีแนวทางที่รุกธุรกิจต่างประเทศมากขึ้น ทั้งการออกไปเปิดสำนักงานในต่างประเทศ และการรับส่วนของต่างชาติที่จะเข้ามาด้วย ซึ่งในส่วนของธนาคารกสิกรไทย ก็มีแนวทางที่ชัดเจนในการของการขยายฐานไปในประเทศจีน ตรงนี้ก็จะต้องมีการจัดสรรบุคลากรเพื่อรองรับด้วย
“กลยุทธ์ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่สำคัญ คือ ต้องมีบุคลากรที่มีความสามารถอย่างเพียงพอ มีพนักงานที่มุ่งมั่นทำงาน และผูกพันกับองค์กร และเสริมสร้างภาวะผู้นำ สร้างองค์กรให้เป็นองค์กรที่น่าอยู่ รวมไปถึงมีระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ มีกระบวนการ และเครื่องมือรองรับ เสริมสร้างศักยภาพพนักงานบุคคล และมีแรงงานสัมพันธ์ที่เท่าเทียม”
